มีใครรู้ไหมครับ? ว่าในรายละเอียดโรคมากมายของโรคเบาหวานนอกจากเบาหวานประเภท 1 ประเภท 2 หรือประเภท 3,4 ยังมีอีกหนึ่งภาวะเกี่ยวกับเบาหวานที่หลายคนอาจจะไม่เคยรู้จักมาก่อนนั่นคือ ภาวะก่อนเบาหวาน (Prediabetes) ซึ่งภาวะสุขภาพที่เกิดจากระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ แต่ยังไม่สูงจนสามารถวินิจฉัยเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งผู้ป่วยส่วนมากมักไม่ทราบว่าตนมีภาวะก่อนเบาหวาน จึงทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคหลอดเลือดหัวใจมากขึ้นหากไม่ได้รับการรักษา

สาเหตุ
ในปัจจุบันยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดถึงสาเหตุของภาวะก่อนเบาหวาน แต่ประวัติครอบครัวและกรรมพันธุ์ รวมถึงการขาดการออกกำลังกาย ภาวะน้ำหนักเกิน และไขมันสะสม อาจเป็นส่วนสำคัญในการเร่งให้เกิดภาวะก่อนเบาหวานได้ โดยเชื่อว่าผู้ที่มีภาวะก่อนเบาหวานเกิดจากการจัดการกับน้ำตาลในร่างกายที่ผิดปกติไป
ปกติแล้วน้ำตาลที่อยู่ในเลือดมีหน้าที่ช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างปกติ เป็นแหล่งพลังงานของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อส่วนต่างๆ โดยแหล่งน้ำตาลส่วนมากมาจากการรับประทานอาหาร เมื่อร่างกายได้รับน้ำตาลจากอาหารเข้าสู่กระแสเลือด จะมีการหลั่งฮอร์โมนชนิดหนึ่งจากตับอ่อน ชื่อว่า อินซูลิน ซึ่งมีหน้าที่ในการดึงน้ำตาลจากเลือดไปให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายใช้งาน หากมีการทำงานที่ไม่สมดุลหรือผิดปกติไปก็อาจเป็นสาเหตุที่นำไปสู่ภาวะก่อนเบาหวาน และอาจพัฒนาไปเป็นโรคเบาหวานต่อไปได้
อาการ
- กระหายน้ำมากขึ้น
 - ปัสสาวะบ่อย
 - หิวบ่อย
 - อ่อนเพลีย
 - มองภาพไม่ชัด
 
ปล. ภาวะก่อนเบาหวานส่วนใหญ่มักไม่แสดงอาการ
ปัจจัยเสี่ยง
- ภาวะน้ำหนักตัวเกิน
 - ขาดการออกกำลังกาย
 - อายุ 45 ปี ขึ้นไป
 - มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน
 - มีประวัติเป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ หรือเคยคลอดบุตรน้ำหนักตัวมากกว่า 4 กิโลกรัม
 - มีกลุ่มอาการถุงน้ำในรังไข่ (Polycystic ovarian syndrome)
 - สูบบุหรี่
 - เป็นโรคความดันโลหิตสูงหรือไขมันในเลือดสูง
 
ปล. ปัจจัยเสี่ยงของภาวะก่อนเบาหวานนั้นเหมือนกับปัจจัยเสี่ยงของโรคเบาหวาน
การวินิจฉัย
American Diabetes Association (ADA) แนะนำให้ตรวจคัดกรองโรคเบาหวานสำหรับผู้ใหญ่ เมื่ออายุ 45 ปี และแนะนำให้ตรวจคัดกรองโรคเบาหวานก่อนอายุ 45 ปี หากมีน้ำหนักเกิน และมีปัจจัยเสี่ยงเพิ่มเติมสำหรับภาวะก่อนเบาหวานหรือโรคเบาหวานชนิดที่ 2 การตรวจเลือดที่จำเป็นสำหรับภาวะก่อนเบาหวาน ได้แก่
Glycated hemoglobin (A1C or HbA1c),การทดสอบระดับน้ำตาลในเลือดโดยเฉลี่ย ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา โดยสามารถการอ่านผลการตรวจได้ ดังนี้
- ต่ำกว่า 5.7% = ปกติ
 - ระหว่าง 5.7% ถึง 6.4% = เป็นภาวะก่อนเบาหวาน
 - 6.5% หรือสูงกว่า = เป็นโรคเบาหวาน
 
การตรวจน้ำตาลในเลือด
ก่อนตรวจต้องงดรับประทานอาหารและดื่มน้ำ เป็นเวลาอย่างน้อย 8 ชั่วโมง ค่าน้ำตาลในเลือดจะแสดงเป็นมิลลิกรัมของน้ำตาลต่อเดซิลิตร (มิลลิกรัม/เดซิลิตร) หรือมิลลิโมลของน้ำตาลต่อลิตร (มิลลิโมล/ลิตร) ของเลือด
- น้อยกว่า 100 mg/dl (5.6 mmol/l) = ปกติ
 - 100 ถึง 125 mg/dl (5.6 ถึง 6.9 mmol/l) = เป็นภาวะก่อนเบาหวาน
 - 126 mg/dl (7.0 mmol/l) หรือสูงกว่า = เป็นโรคเบาหวาน
 
การรักษา
การปรับไลฟ์สไตล์และดำเนินชีวิตให้มีสุขภาพดีจะช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดให้กลับมาเป็นปกติ หรือป้องกันไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงจนเป็นโรคเบาหวาน การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อป้องกันภาวะก่อนเบาหานไม่ให้กลายเป็นโรคเบาหวานสามารถทำได้ดังนี้
- กินอาหารเพื่อสุขภาพ รับประทานอาหารประเภทผลไม้ ผัก ถั่ว ธัญพืชไม่ขัดสี น้ำมันมะกอก เลือกอาหารที่มีไขมันและแคลอรีต่ำ มีไฟเบอร์สูง
 - ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เช่น การเดินอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์
 - ควบคุมน้ำหนัก ให้อยู่เกินปกติ
 - เลิกสูบบุหรี่
 - รักษาค่าความดันโลหิตและคอเลสเตอรอลไม่ให้สูงเกินมาตรฐาน
 - ใช้ยาเมทฟอร์มิน (กลูโคฟาจ) เพื่อลดน้ำตาลในเลือดหากมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคเบาหวาน ซึ่งควรปรึกษาแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญก่อนใช้
 

สรุป
ภาวะก่อนเบาหวานคือภาวะที่มีน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ คืออยู่ในช่วง 100 ถึง 125 mg/dl แต่ยังไม่ถึงขั้นที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวาน หากไม่ได้รับการรักษาจะนำไปสู่โรคเบาหวาน แต่หากได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี ก็จะสามารถหายขาดได้ โดยการรักษาจะเป็นการออกกำลังกายลดน้ำหนัก ปรับพฤติกรรมการกิน บางรายอาจจะมีการทานยาร่วมด้วย
สาเหตุการเกิดยังไม่แน่ชัด แต่จากข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้นสามารถอนุมานได้ว่าหลักๆจะเกิดจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวันอย่างการกินการออกกำลังกาย โดยมีพันธุกรรมเป็นตัวแปลสำคัญ หากในครอบครัวมีผู้มีประวัติป่วยเบาหวานอาจจะต้องเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงโรคเบาหวาน หรือผู้ที่ในครอบครัวไม่มีประวัติเป็นโรคเบาหวาน ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เกิดภาวะก่อนเบาหวาน หรือโรคเบาหวาน ดังนั้นหันมาใส่ในสุขภาพและหมั่นออกกำลังเป็นประจำ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะการป้องกันนั้นดีกว่าการแก้ไขในภายหลังแน่นอนครับ
- 
	
HotCGMiCan i3 | CGM วัดน้ำตาลต่อเนื่อง 15 วัน All-in-1 แทนการเจาะน้ำตาล 7,160 ครั้ง
Price range: 290฿ through 8,490฿ Select options This product has multiple variants. The options may be chosen on the product page - 
	
HotCGMAnytime CT3 | CGM ตรวจน้ำตาลต่อเนื่อง 14วัน เพิ่มผู้ติดตามได้ Rechargeable Battery
Price range: 290฿ through 2,380฿ Select options This product has multiple variants. The options may be chosen on the product page - 
	
HotCGMAnytime CT3 | CGM ตรวจน้ำตาลต่อเนื่อง 84วัน (6กล่อง) เพิ่มผู้ติดตามได้ Rechargeable Battery
Price range: 290฿ through 9,280฿ Select options This product has multiple variants. The options may be chosen on the product page - 
	
CGMCGM CT10 | ตรวจน้ำตาลอย่างแบบต่อเนื่อง10 วันผ่าน Bluetooth ติดตั้งได้เอง
Price range: 1,990฿ through 5,950฿ Select options This product has multiple variants. The options may be chosen on the product page - 
	
BGMBGM | เครื่องตรวจน้ำตาล เบาหวาน แบบเจาะปลายนิ้ว Bluetooth
Price range: 280฿ through 1,000฿ Select options This product has multiple variants. The options may be chosen on the product page 
Highlight
แบบทดสอบประเมินอื่นๆ
อีไลฟ์ได้ทำแบบประเมินสุขภาพอื่นๆ เพื่อประโยชน์ของท่านในการรู้ตัวเอง เปลี่ยนพฤติกรรม ออกกำลังการรักษาสุขภาพให้ดียิ่งๆขึ้น
- หาค่า BMI ดัชนีมวลรวมร่างกาย
 - คำนวน Calories ที่ควรรับประทานต่อวัน
 - แบบประเมินความเสี่ยง OSA การหยุดหายใจขณะหลับ
 - แบบประเมินความเสี่ยง เบาหวาน
 - บริการทำ Home Sleep Test มาตฐาน FDAสหรัฐ อย.ไทย
 - ทดลอง CGM ฟรี
 - ทดลอง CPAP ฟรี
 
บทความที่เกี่ยวข้อง
