fbpx

ประเมิน ความเสี่ยงเบาหวาน ด้วยตัวเอง

ข้อมูลจาก CDC ชาวอเมริกา 84ล้านคน หรือกว่า 1ใน3 เสี่ยงเป็นโรคก่อนเบาหวาน คือระดับน้ำตาลในเลือดสูง แต่ไม่ถึงขั้นเป็นเบาหวานประเภท2 แต่มีโอกาสสูงมากที่จะพัฒนาเป็นเบาหวาน
Prediabetes
BMI ดัชนีมวลรวมร่างกาย
คนในครอบครับ พ่อ แม่ พี่ หรือ น้องคุณ เป็นเบาหวานหรือไม่
เพศ
คุยเคยถูกวินิจฉัยว่า มีภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์
คุณมีอายุ
เส้นรอบเอวของคุณมากกว่า 35.5นิ้ว ในชาย หรือ 31.5นิ้ว ในหญิง
คุณเป็นผู้มีปัญหาเกี่ยวกับความดันโลหิต?
ในหนึ่งอาทิตย์คุณมีการออกกำลังกายหรือไม่

เกี่ยวกับแบบทดสอบนี้

ที่มา CDC ศูนย์ควบคุมโรคสหรัฐอเมริกา : ผู้ใหญ่ชาวอเมริกากว่า 84ล้านคน (หรือกว่า 1ใน3) มีภาวะความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน ระยะ Prediabetes โดยระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าค่ามาตฐาน แต่ยังไม่ถึงขั้นถูกวินัจฉัยว่าเป็นโรคเบาหวานประเภท2 และกว่า 90% ของกลุ่มนี้ไม่ทราบมาก่อนว่าตัวเองมีภาวะเสี่ยง ภาวะเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานนี้มีแนวโน้มสูงมากที่จะพัฒนาเป็นโรคเบาหวานต่อไป จึงเป็นความสำคัญอย่างยิ่งยวดที่ทุกคนต้องเรียนรู้ว่าตัวเองมีภาวะเสี่ยงเป็นเบาหวานหรือไม่ เพื่อประโยชน์ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อป้องกันหรือชะลอการเป็นโรคเบาหวานต่อไป

สมาคมเบาหวานแห่งสหรัฐอเมริกา ได้เริ่มแบบประเมินนี้มาตั้งแต่ปี 1993 เพื่อระบุความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานในบุคคลหมู่มาก โดยใช้ค่าส่วนบุคคลนั้นๆเช่น อายุ เพศ ส่วนสูง น้ำหนัก และพฤติกรรมการออกกำลังการเพื่อ คัดกรองเบื้องต้น โดยในแบบทดสอบนี้ไม่มีการใช้ค่า น้ำตาลในเลือด และ ปริมาณคอลเลสเตอรอล

สำหรับคนที่มีความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน (คะแนนตั้งแต่ 5ขึ้นไป) มีความเป็นไปได้สูงที่จะพัฒนาต่อไปเป็นโรคเบาหวาน ควรตรวจร่างกายอย่างสม่ำเสมอ ในสถานพยาบาล ปรึกษาแพทย์อย่างใกล้ชิด

ทดลองใช้เครื่อง CGM ฟรี

Continuous Glucose Monitoring – CGM เครื่องวัดระดับน้ำตาลแบบต่อเนื่อง ลดการเจาะนิ้วตรวจเลือด บอกค่าทุกๆ3นาที เป็นเวลา10วัน สามารถบันทึกเป็นกราฟ แจ้งเตือนเมื่อน้ำตาลสูงหรือต่ำเกินไป สร้างรายงานพฤติกรรม และสถิติ Report สามารถดูผลทั้งในมือถือ ผ่าน App, PDF หรือดูข้อมูลผ่าน Cloud(ดูผ่าน Website) สามารถใช้งานได้กับ บุลคนทั่วไปที่สนใจสุขภาพอยากดูพฤติกรรมตัวเอง, ผู้ป่วยเบาหวานประเภท1, ผู้ป่วยเบาหวานประเภท2

มีผู้สนใจเป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่เคยใจ และอาจมีความสงสัย เราเปิดโครงการนี้เพื่อให้บุคคลทั่วไปสามารถทดลองใช้ CGM ตัวนี้ได้ โดยหลักแล้วเครื่องนี้ประกอบด้วย 2ส่วน คือ Sensor และ Transmitter โดยเซนเซอร์เป็นสิ่งที่ใช้แล้วหมดไปใช้หนึ่งชิ้นต่อหนึ่งคนเท่านั้น ส่วนทรานซ์มิตเตอร์ สามารถใช้ซ้ำได้

**อุปกรณ์ทั้งสองชนิดผ่าน อย.ไทย, FDA และ มาตรฐาน CE อย่างไรก็ดีกรุณาอ่านคู่มือ และเอกสารประกอบทุกครั้งที่ใช้ ค่าที่ได้ไม่สามารถใช้เพื่อปรับวิธีการรักษาเอง ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสำหรับวิธีการรักษาเท่านั้น**


การตราจน้ำตาลมีกี่แบบ

  1. แบบ CGM สามารถรายงานผลแบบเรียลไทม์ แจ้งเตือนเมื่อระดับน้ำตาลสูงหรือต่ำกว่าค่าที่กำหนด ช่วยให้สามารถควบคุมระดับน้ำตาลอย่างได้ผล การแสดงผลแบบเรียลไทม์ยังช่วยให้ทราบว่าอาหารชนิดใดที่ทำให้ค่าน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ทราบปริมาณการกินที่เหมาะสม นำไปสู่การดูแลรักษาผู้ป่วยเบาหวานอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
  2. แบบ BGM  เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ของผู้ป่วยโรคเบาหวานแบบเจาะที่ปลายนิ้วมือและจะมีตัวเครื่องประมวณค่าน้ำตาล บางเครื่องต้องจดค่าเพื่อนำส่งคุณหมอบางเครื่องเก็บค่าไว้ในเครื่องเราก็ไม่สามารถรู้ได้ แต่ตอนนี้มีการเชื่อมตัวเครื่องตรวจเข้ากับแอพพิเคชั่นทำให้ผู้ตรวจสังเกตุและปรับพฤติกรรมเบื้องต้นได้เองแต่ก็ต้องเข้าปรึกษาแพทย์เพื่อวิเคราะห์เหมือนเดิม
  3. แบบ HbA1C เป็นการเก็บตัวอย่างเลือดที่โรงพยาบาลได้ค่าที่คงที่ แต่จำเป็นต้องไปทำที่โรงบาลเท่านั้นและใช้เวลาอ่านผลนาน

 

 

HbA1C

Hemoglobin A1C

 

BGM

Blood Glucose Monitoring

 

CGM

Continuous Glucose Monitoring

  • เก็บตัวอย่างเลือดปริมาก
  • ทำที่โรงบาลหรือ Lab เท่านั้น
  • เจาะเลือดที่ปลายนิ้ววันละ 1-7 ครั้ง
  • ซื้อได้ทั่วไป
  • ติด sensor ที่แขนหรือหน้าท้อง
  • บอกค่าต่อเนื้อง
  • ทำเองที่บ้านได้
  • บอกระดับน้ำตาลในเลือดแบบกราฟ
  • เป็นการตรวจมาตราฐานในปัจจุบัน
  • ราคาไม่แพง
  • ราคาไม่แพง*
  • ใช้งานง่าย
  • เก็บข้อมูลครบถ้วน
  • ช่วยรักษาระดับน้ำตาล
  • ลดจำนวนการเจาะน้ำตาล
  • ต้องตรวจที่โรงบาล*
  • ใช้เวลานาน
  • ไม่เหมาะกับผู้ป่วยบางกลุ่ม
  • ลืมตรวจ ตรวจผิดเวลา
  • ได้ข้อมูลเฉพาะเวลาที่เจาะเท่านั้น
  • เจ็บปลายนิ้วทุกครั้งที่เจาะ
  • ราคาสูงกว่า*
  • เซ็นเซอร์จะติดตัวตลอดตามเวลากำหนด

 

 

เปรียบการวัดแบบ BGM (Fingerstick) กับ CGM
กราฟทางซ้ายของ BGM จะเห็นจุดที่เจาะเลือดทั้งหมด 4ครั้งในหนึ่งวัน จะเห็นว่าระดับน้ำตาลอยู่ในช่วงที่ดีทุกช่วงเลย แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่อย่างงั้น ระดับน้ำตาลในเลือดเราเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากสภาพร่างกายของบุคคลนั้น การกินอาหาร ณ เมื่อนั้นๆ กราฟ CGM ทางขวาจะเป็นว่ามีช่วงที่ระดับน้ำตาลสูง และ ต่ำกว่าขอบเขตควบคุม CGM จึงเป็น Personalize Medical ที่ดีกว่าจะเป็นพฤติกรรมหรือ Pattern ของบุคคลนั้นๆแบบ Realtime
ตย.อย่างประกอบไม่ใช่ข้อมูลของบุคคลในรูปจริงๆ
จะเห็นว่าแต่ละบุคคลมี Pattern ของระดับน้ำตาลในร่างกายไม่เหมือนกัน การทราบ Pattern ของตัวเองสามารถปรับการรักษาโดยแพทย์ หรือ เราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน การออกกำลังกายได้ดียิ่งขึ้น

แบบประเมินอื่นๆ

อีไลฟ์ได้ทำแบบประเมินสุขภาพอื่นๆ เพื่อประโยชน์ของท่านในการรู้ตัวเอง เปลี่ยนพฤติกรรม ออกกำลังการรักษาสุขภาพให้ดียิ่งๆขึ้น