fbpx

รากฐานของสังคมไทย คือเยาวชนที่มีคุณภาพชีวิตดี (และนั่งถูกหลักการยศาสตร์ Ergonomic)

รากฐานของสังคมไทย คือเยาวชนที่มีคุณภาพชีวิตดี (และนั่งถูกหลักการยศาสตร์ Ergonomic)

รากฐานของสังคมไทย คือเยาวชนที่มีคุณภาพชีวิตดี (และนั่งถูกหลักการยศาสตร์ Ergonomic)

ทำไมสังคมไทยในปัจจุบันจึงมองเห็นคุณภาพชีวิตเด็กน้อยลงทุกวัน ทั้งๆที่เรามีคำขวัญวันเด็กที่ได้จากนายกรัฐมนตรีทุกปี แต่คุณภาพชีวิตของเด็กไทยกว่าครึ่งประเทศกลับแย่ลง ถึงขนาดมีงานวิจัยว่า “งบประมาณรายจ่ายภาครัฐเพื่อการพัฒนาเด็ก ในช่วงอายุ 0-3 ปี ในประเทศไทย ไม่เพียงพอ” เพราะเมื่อมีการศึกษาพบว่าในปีงบประมาณ พ.ศ.2562 สวัสดิการภาครัฐ ของไทยเพื่อการพัฒนาเด็กช่วงอายุ 0-3 ปีทั้งหมดอยู่ที่ 58,508 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ร้อยละ 2.0 หรือคิดเป็นร้อยละ 0.4 ของจีดีพี และหากคิดเป็นงบประมาณต่อคนจะพบว่าเท่ากับ 22,806 บาทต่อคนต่อปีเท่านั้น ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ชวนให้ประหลาดใจมากว่าสิ่งที่รัฐบาลพยายามนำเสนอให้สังคมเห็นว่า เยาวชนไทยสามารถเติมโตในประเทศนี้ได้อย่างไร้กังวล แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงในเชิงนโยบายที่มองไปถึงเรื่องของงบประมาณที่นำมาลงในส่วนนี้ ช่างสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง

จริงๆเราคงไม่ควรต้องมานั่งคุยกันเรื่องการทำงานของรัฐบาลกันแล้ว แต่ประเด็นหลักที่ต้องการนำเสนอจริงๆคือต้องการให้สังคมไทย ไ้ด้หันมาใส่ใจเยาวชนไทยให้มากขึ้น ถึงแม้ในบางเรื่องจะดูละเอียดอ่อนและดูเป็นเรื่องเล็กน้อยมากๆ อย่างเช่นการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและฮอร์โมนของเด็กในแต่ละช่วงวัย อาหารการกินถูกหลักโภชนาการหรือไม่ หรือแม้กระทั่งการนั่งเรียนของเด็กถูกต้องตามหลักการยศาตร์หรือไม่ ซึ่งเด็กไทยนั่นเป็นเด็กที่เรียนหนักที่สุดประเทศหนึ่งในโลก คือมากกว่า 1,200 ชม. ต่อปี ดังนั้นการนั่งเรียนเป็นเวลานานโดยมีสภาพแวดล้อมที่ไม่ถูกต้องย่อมก่อให้เกิดผลเสียกับตัวเด็กแบบที่เด็กต้องเรียนไปอย่างไม่มีความสุข

ทีนี้เรามาเริ่มทำความเข้าใจกับการนั่งที่ถูกหลักการยศาสตร์หรือที่เรียกว่า Ergonomic กัน

ต้องเริ่มเล่าให้ฟังก่อนว่าร่างกายของมนุษย์ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้อยู่ในท่านั่งนานๆ เมื่อพูดถึง “ธรรมชาติ” ผู้ซึ่งเป็นผู้ออกแบบโครงสร้างร่างกายบรรพบุรุษมนุษยชาติเมื่อหลายล้านปีก่อน ให้รองรับกับฟังก์ชั่นการใช้งานด้านการดำรงชีวิตที่สำคัญที่สุดอย่าง “การหาอาหาร” ดังนั้นแล้ว โครงสร้างร่างกายมนุษย์ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการนั่งเรียนหนังสือ หรือนั่งทำงานเป็นเวลานานอย่างแน่นอน

วัยเด็กของหลายคนตอนนั่งเรียนต้องเคยประสบปัญหาการนั่งเรียนที่ไม่สบาย เช่น โต๊ะสูงเกินไปเมื่อเทียบกับส่วนสูงร่างกาย การก้มศีรษะมากกว่าปกติเพื่ออ่านหนังสือ เก้าอี้นั่งไม่สบายทำให้รู้สึกเจ็บ และแน่นอนว่าปัญหาเหล่านี้ระบบการศึกษาไทยไม่มีทางมองเห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับตัวเด็ก จึงตกเป็นภาระของผู้ปกครองที่ต้องเอาใจใส่บุตรหลานของท่านเอง การลงทุนซื้อชุดโต๊ะ-เก้าอี้ดีๆเพื่อบุตรหลานของท่านนั้นก็นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับคุณภาพชีวิตด้านสุขภาพในระยะยาวของบุตรหลาน

หากจะให้แยกออกมาเป็นประเด็นที่ควรให้ความสำคัญกับเด็กอย่างเร่งด่วน สามารถแยกออกมาได้ 3 ด้าน ดังนี้

1.ด้านบุคคลิกภาพ (Personality)

บุคคลิกภาพในวัยเด็กส่งผลอย่างมากกับบุคคลิกในวัยรุ่นและวัยทำงาน การมีบุคคลิกภาพที่ดีในสังคมนี้ คุณมีแต้มต่อเหนือกว่าคนอื่นแล้วอย่างน้อย 1-2 แต้ม หากคุณต้องการให้ลูกของคุณเป็นคนที่ได้รับเลือกให้เข้าทำงานในบริษัทที่ใช้บุคคลิกที่ดีในการทำงาน คุณควรเริ่มหันมาใส่ใจลูกของคุณเลยตั้งแต่วันนี้ คุณอาจจะเป็นคนสอนลูกของคุณเองหรือส่งไปเรียนในโรงเรียนที่มีชื่อเสียงเรื่องสร้างบุคคลิกภาพ แต่ก็ไม่ควรละเลยในเรื่องพื้นฐานอย่างการนั่งเรียนในท่าที่ถูกหลักการยศาสตร์ การที่คุณทนนั่งเรียนแบบปวดหลังปวดก้นในวัยเด็กจาการนั่งอ่านหนังสือ ทำการบ้านบนพื้นบ้านกับโต๊ะญี่ปุ่นของคุณ ไม่ได้จำเป็นว่าลูกของคุณก็ต้องเป็นแบบนั้นด้วย

2.ด้านสุขภาพและร่างกาย (Health and Body)

อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น ร่างกายมนุษย์ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อนั่งเป็นเวลานานๆ ดังนั้นการนั่งนานๆในท่าทางที่ผิดหลักการยศาสตร์จะนำไปสู่ปัญหาเรื่องกระดูกและระบบประสาท รู้หรือไม่ว่าแม้แต่เด็กก็สามารถเกิด อาการออฟฟิศซินโดรม(Office Syndrome) ได้เช่นกัน เพราะเมื่อเทียบกับผู้ใหญ่วัยทำงาน เด็กก็ใช้เวลาในการนั่งเรียนเยอะเหมือนกัน ไม่รวมกับที่หลังเลิกเรียนเด็กต้องไปเรียนพิเศษต่ออีก นี้จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการนั่งที่ถูกหลักการยศาสตร์จึงสำคัญกับเด็กอย่างมาก นอกจากอาการออฟฟิศซินโดรมแล้ว โรคกระดูกสันหลังคดก็เป็นอีกโรคนึงที่มีอัตราการพบในเด็กมากขึ้น โดยโรคกระดูกสันหลังคดเป็นได้ในเด็กตั้งแต่วัยแรกเกิดถึงวัยรุ่นซึ่งเป็นช่วงที่พบได้บ่อย ซึ่งประมาณร้อยละ 80 เป็นชนิดที่ไม่ทราบสาเหตุ และจากการวิจัยพบว่าเด็กไทยเป็นโรคนี้ ในอัตรา 1 ต่อ 10,000 คน ในระยะหลังพบเด็กเป็นโรคนี้มากขึ้น อันเนื่องมาจากพันธุกรรม และพฤติกรรมการใช้ชีวิตก็อาจเป็นสาเหตุทำให้หลังคดได้

3.ด้านพัฒนาการเรียนรู้ (Learning)

เราคงเคยได้ยินสุภาษิตไทยที่ว่า “รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง” ซึ่งความหมายคือ การทำผลงานอะไรก็ตามที่ตัวเองทำออกมาไม่ดีกลับไปโทษว่า  กระดาษไม่ดี  หมึกไม่สวย กรรมการตาถั่ว แต่กลับไม่ว่าตัวเองเลย แต่ในที่นี้เราคงกล่าวได้ว่า “เรียนไม่ดีโทษโต๊ะโทษเก้าอี้” นั้น ไม่ใช่สุภาษิตหรือคำเปรียบเปรยแต่มันคือเรื่องจริง เพราะการที่เรามีเครื่องมือทำงานที่แย่ มีสภาพแวดล้อมที่ไม่ดี ส่งผลโดยตรงกับผลงานหรือการเรียนรู้แน่นอน โต๊ะเก้าอี้ที่ดีเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ลูกของคุณมีสมาธิในการเรียนมากขึ้น นั่งได้นานขึ้นไม่ต้องคอยปวดคอยเมื่อยกับอาการที่ตามมาหลังการนั่งในท่าที่ผิดหลักนานๆ ย้ำอีกรอบว่า โต๊ะเก้าอี้เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญสำหรับการเรียนรู้ของเด็ก แบบไม่ใช่การเหมารวมไปว่า รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง

early

ประโยชน์ของโต๊ะเก้าอี้เด็กแบบ Ergonomic ถูกออกแบบมาให้ยืดหยุ่นกับการใช้งานที่หลากหลาย รองรับการเจริญเติมโตของร่างกายเด็กแต่ละสรีระตามแต่ละช่วงวัย ไม่ว่าเด็กจะมีการเติบโตเร็วเพียงใด ก็สามารถปรับความสูงต่ำของโต๊ะเก้าอี้ได้ตามต้องการ หากให้ว่ากันตามตรงถือว่าคุ้มค่ามากๆกับชุดโต๊ะเก้าอี้ 1 ชุด ที่ลูกของคุณสามารถใช้งานได้ยาวๆ แถมนั่งถูกหลัก Ergonomic อีกต่างหาก “การลงทุนครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อคุณภาพชีวิตบุตรหลานของคุณเอง”