5 เรื่องที่ควรรู้ ก่อนซื้อวีลแชร์ไฟฟ้า ให้คุ้มค่าและเหมาะกับผู้ใช้ที่สุด

5 เรื่องที่ควรรู้ ก่อนซื้อวีลแชร์ไฟฟ้า ให้คุ้มค่าและเหมาะกับผู้ใช้ที่สุด

วีลแชร์ไฟฟ้าได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับผู้สูงอายุ ผู้ป่วย และผู้ที่มีข้อจำกัดในการเคลื่อนไหว ให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างอิสระและมีความมั่นใจมากขึ้น แต่การจะเลือกซื้อวีลแชร์ไฟฟ้าสักคันให้คุ้มค่าและตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างแท้จริงนั้น ไม่ใช่แค่เรื่องของราคา แต่ยังมีปัจจัยอีกหลายอย่างที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ บทความนี้ได้รวบรวม 5 เรื่องสำคัญที่ต้องรู้ เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจเลือกซื้อวีลแชร์ไฟฟ้าที่เหมาะสมที่สุด


1. เลือกน้ำหนักและการพับเก็บที่เหมาะกับการใช้งาน

  • วีลแชร์ไฟฟ้ามีน้ำหนักตั้งแต่ 13.5 – 50±  กิโลกรัม

  • สำหรับคนที่ต้องยกขึ้นรถหรือเดินทางบ่อย ควรเลือก วีลแชร์ไฟฟ้าพับได้ หรือวัสดุอลูมิเนียม/คาร์บอนไฟเบอร์ที่เบา

  • อย่าลืมดูวิธีพับว่าทำได้ง่าย และพับแล้วเก็บในรถหรือบ้านสะดวกหรือไม่

💡 แนะนำ: เลือกรุ่นที่น้ำหนักเหมาะกับผู้ใช้งานและสถานการณ์ เช่น หากต้องเดินทางบ่อยควรเลือกน้ำหนักเบาและพับเก็บง่าย เพื่อสะดวกต่อการขนย้ายและเก็บรักษา


2. ตรวจสอบระยะทางต่อการชาร์จ 1 ครั้ง

  • แบตเตอรี่และกำลังมอเตอร์มีผลต่อระยะทางที่วิ่งได้

  • รุ่นทั่วไปวิ่งได้ 10–20 กม./ชาร์จ แต่บางรุ่นพิเศษวิ่งได้มากกว่า 25 กม.

  • เลือกตามการใช้งานจริง เช่น ใช้ในบ้าน, เดินห้าง, หรือเดินทางนอกเมือง

💡 แนะนำ: เลือกระยะทางวิ่งที่เพียงพอต่อการใช้งานจริงในแต่ละวัน โดยพิจารณาจากเส้นทางและความถี่ในการใช้งาน เช่น ใช้ในหมู่บ้านหรือนอกเมือง


3. ความเร็วและระบบควบคุมที่ปลอดภัย

 

  • ความเร็วเฉลี่ยของวีลแชร์ไฟฟ้าอยู่ที่ 6–8 กม./ชม. (ประมาณเดินเร็ว)

  • ควรเลือกรุ่นที่ปรับความเร็วได้ และมี Joystick ควบคุมง่าย

  • บางรุ่นมีรีโมทควบคุมสำหรับผู้ดูแล เหมาะกับผู้ใช้ที่ควบคุมเองได้ไม่สะดวก

💡 แนะนำ: เลือกความเร็วที่เหมาะสมกับทักษะของผู้ใช้ และมีระบบควบคุมที่ง่ายต่อการบังคับ เพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ


4. ความปลอดภัยและความมั่นคงขณะใช้งาน

 

  • เลือกระบบเบรกไฟฟ้าหรือแม่เหล็กที่หยุดทันทีเมื่อปล่อยคันบังคับ

  • ล้อควรมีดอกยางกันลื่น ใช้งานได้ทั้งในบ้านและบนทางขรุขระ

  • เข็มขัดนิรภัยและที่วางเท้าปรับได้ช่วยลดความเสี่ยงจากการลื่นหลุด

💡 แนะนำ: ควรเลือกรุ่นที่มีระบบเบรกและโครงสร้างแข็งแรง รองรับการใช้งานบนพื้นที่ต่างระดับได้ และมีฟังก์ชันลดการลื่นไถลเพื่อความมั่นคง


5. การรับประกันและบริการหลังการขาย

  • เลือกซื้อจากร้านที่มี ศูนย์บริการวีลแชร์ไฟฟ้า และอะไหล่พร้อม เช่น แบต, มอเตอร์, ล้อ

  • การรับประกันควรครอบคลุมอย่างน้อย 1 ปี

  • สอบถามเรื่องระยะเวลาซ่อมและค่าใช้จ่าย เพื่อป้องกันการใช้งานสะดุด

💡 แนะนำ: เลือกร้านหรือศูนย์บริการที่ให้การรับประกันชิ้นส่วนสำคัญอย่างน้อย 1 ปี และมีบริการซ่อมบำรุงพร้อมอะไหล่รองรับ เพื่อใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง


สรุป

การเลือกซื้อวีลแชร์ไฟฟ้าที่เหมาะสมไม่ได้จบที่การจ่ายเงิน แต่คือการเริ่มต้นของการเดินทางครั้งใหม่ที่เปี่ยมด้วยอิสระ การสละเวลาศึกษาข้อมูลและพิจารณาอย่างรอบด้านตามหัวข้อข้างต้น จะช่วยให้คุณสามารถเลือกวีลแชร์ไฟฟ้าที่ “ใช่” ที่สุดสำหรับผู้ใช้งาน เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและนำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน  ควรพิจารณามากกว่าราคา โดยดูจากน้ำหนัก ความสะดวกในการพับเก็บ ระยะทางต่อการชาร์จ ระบบควบคุม ความปลอดภัย และบริการหลังการขาย เพื่อให้ได้รุ่นที่เหมาะกับการใช้งานจริง คุ้มค่า และใช้งานได้นาน

Gallery