fbpx

ขนรถเข็นไฟฟ้าขึ้นเครื่องบินไปเที่ยวเชียงคาน วีลแชร์ไฟฟ้ารุ่น PW-301Plus

ขนรถเข็นไฟฟ้าขึ้นเครื่องบินไปเที่ยวเชียงคาน วีลแชร์ไฟฟ้ารุ่น PW-301Plus

การดำเนินชีวิตในของแต่ละคนล้วนแตกต่างกันออกไป มีสิ่งหนึ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เลยคือความเครียด ความทุกข์ หรือความกังวลใจจากเรื่องต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามา ไม่ว่าจะทางร่างกายหรือจิตใจก็ตามถ้าไม่อาจเลี่ยงได้แล้วเราจะใช้ชีวิตอยู่อย่างไรให้มีความสุข ? คงจะดีไม่น้อยถ้าเราจะหาเวลาพาตัวเองไปชาร์ตแบต ให้ร่างกายและจิตใจบ้าง เผื่อจะได้มีแรงกลับมาสู้กันต่อ “เชียงคาน” เมืองเล็กๆ ติดริมแม่น้ำโขง คนส่วนใหญ่อาจเลยได้ยินสถานที่แห่งนี้ บางคนอาจเคยมาสัมผัสด้วยตัวเอง หรือแม้แต่ฟังจากคำบอกเล่าของคนอื่น
วันนี้แอดมินจะพาไปรู้จักเชียงคานในอีกมุมหนึ่ง…. ปกติแล้วนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเชียงคานมักจะใช้จักรยาน เป็นภาหนะในการชมเมือง ไปวัด ชมวิวริมแม่น้ำโขง หรือไปสถานที่ต่าง ๆ ที่ไม่ไกลมากนัก แต่การเดินทางครั้งนี้เรามีเพื่อนร่วมทางที่ดีอย่างรถเข็นไฟฟ้า PW-301 Plus ที่จะอำนวยความสะดวกในการเดินทางครั้งนี้

รถเข็นไฟฟ้าน้ำหนักเบา

รถเข็นวีลแชร์ไฟฟ้า น้ำหนักเบา สำหรับพาผู้สูงอายุท่องเที่ยว รุ่น PW-301 Plus ความพิเศษที่นอกจากน้ำหนักเบาแล้วยังสามารถพับ-เก็บโหลดขึ้นเครื่องบินได้ เพราะมีแบตเตอรีเป็นลิเธียม (ลักษณะเดียวกับแบต Power Bank โทรศัพท์มือถือ) วันนี้อีไลฟ์จะรีวิว ขนรถเข็นไฟฟ้าคันนี้ไปเที่ยวไกลถึงเชียงคานจะเป็นยังไงไปดูรีวิวกันเลยค่ะ…

ขออธิบายรายละเอียดคร่าวๆเกี่ยวกับรถเข็นไฟฟ้า PW-301 Plus กันก่อนนะคะ วีลแชร์รุ่นนี้เป็นโครงสร้างอลูมิเนียม ดังนั้นน้ำหนักรถที่เบาและไม่ขึ้นสนิม มีน้ำหนักรถเบาเพียง 18.5 กิโลกรัม แต่สามารถรับน้ำหนักผู้นั่งได้ถึง 120 กิโลกรัม และที่สำคัญสามารถพับ-เก็บได้ง่าย ไม่ว่าจะใส่ท้ายรถหรือขึ้นเครื่องบินจึงเป็นวีลแชร์ไฟฟ้าที่เหมาะกับการท่องเที่ยว เดินทางไม่ว่าจะในหรือนอกประเทศ


วันที่ 1 บรรยากาศที่สนามบินก่อนขึ้นเครื่องเดินทาง

รถเข็นไฟฟ้าขึ้นเครื่องบิน

โดยปกติแล้วแต่ละสายการบินจะรถเข็นวีลแชร์คอยให้บริการผู้โดยสาร เห็นได้จากในรูปเลยที่จอดเรียงกันเป็นจำนวนมาก ครั้งนี้อีไลฟ์เดินทางโดยใช้สายการบิน Air Asia ค่ะ ซึ่งก่อนหน้านี้เราได้โทรมาปรึกษากับเจ้าหน้าเกี่ยวกับชั้นตอนและกฎของสนามบิน ซึ่งจริงๆแล้วทุกครั้งที่เราเดินทางไม่ว่าจะสายการบินใด ควรโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนทุกครั้งนะคะ เพื่อความชัวร์เพราะแต่ละสายกรบินจะมีกฏและขั้นตอนที่ไม่เหมือนกัน เรามาดูกฏระเบียบในการนำรถเข็นไฟฟ้าของสายการบิน Air Asia กันดีกว่า

  • แอร์เอเชีย สายการบินจะให้ผู้โดยสารที่ทุพพลภาพ หรือมีปัญหาด้านสุขภาพ หรืออยู่ในภาวะป่วยร่วมเดินทางไปด้วยเที่ยวบินละ 4 ท่าน  ผู้โดยสารที่เป็นอัมพาตทั้งแขนและขาจะถูกจำกัดไม่เกิน    เที่ยวบินละ 2 ท่าน ในบางกรณีทางสายการบินอาจร้องขอให้ผู้โดยสารดังกล่าวต้องมีผู้ร่วมเดินทางด้วย อีกทั้งยังอนุญาตให้ รถเข็นเด็ก รถเข็นวีลแชร์ อุปกรณ์ช่วยเดินและโครงเหล็กช่วยเดิน สามารถนำขึ้นเครื่องได้โดย ไม่เสียค่าใช้จ่าย (รวมไปถึงรถเข็นหรืออุปกรณ์ช่วยเหลือที่ใช้พลังงานแบตเตอรี่ แต่ต้องถอดแบตเตอรี่ออกจากอุปกรณ์ดังกล่าวแล้ว) น้ำหนักสูงสุดที่อนุญาตคือ 85 กิโลกรัม ทั้งนี้ต้องทำการแจ้งสายการบินก่อนล่วงหน้า 48 ชั่วโมง เพื่อเตรียมการช่วยเหลือ 
  • เงื่อนไขตามหลักการบินพลเรือน CAAT
    กรณีที่เป็นรถเข็นวีลแชร์ไฟฟ้า ต้องถอดแบตเตอรีแยก ใส่ในกระเป๋าก่อนโหลดใต้ท้องเครื่อง กำลังไฟฟ้าแบตเตอรี่ 1 ก้อนไม่เกิน 300Wh แบตเตอรี่ 2ก้อนไม่เกินข้างละ 160Wh
  • ประจุไฟของแบตเตอรีของ Pw-301Plus คือ Lithium 12V 6AH ซึ่งเป็นไปตามกฏของสนามบิน โดยทางอีไลฟ์ได้ทำการโหลดรถเข็นไว้ใต้ท้องเครื่องและถอดแบตเตอรีติดตัวขึ้นเครื่องไป ตามมาตรการของสายการบิน

รถเข็นไฟฟ้าขึ้นเครื่องบิน

ขั้นตอนนำรถเข็นไฟฟ้าขึ้นเครื่องบิน

  • หลังจากที่จองตั๋วเครื่องบิน เรียบร้อยแล้ว ให้โทรไปที่ Call center เจ้าหน้าที่จะให้บริการคำแนะนำในการเตรียมเอกสารเกี่ยวกับแบตเตอรี่เพื่อนำขึ้นเครื่องบิน
  • ส่งรายละเอียดต่างๆของรถเข็น + แบตเตอรี่ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่  ไปที่ E-mail : thailand-support@airasia.com
  • หลังจากส่งเรียบร้อยให้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่อีกครั้ง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะส่งแบบฟอร์มมาให้เรากรอก พอกรอกเอกสารเรียบร้อย ให้ส่งกลับไปที่ Emailเดิม อีกรอบ และโทรแจ้งเจ้าหน้าที่อีกครั้งหนึ่ง
  • หลังจากที่เจ้าหน้าที่คอนเฟิร์มกับเราว่าเอกสารเรียบร้อยแล้ว รอประมาณ 2-3 วัน ให้โทรไปเช็คกับ Call center อีกครั้ง เพื่อการยืนยันที่ถูกต้อง หากทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็ปริ้นแบบฟอร์มไปในวันเดินทางด้วยค่ะ เพราะต้องนำไปประกอบเอกสารชี้แจ้งกับเจ้าหน้าที่สบามบิน.

เมื่อออกจากสนามบินเลยได้ขับรถต่อไปที่เชียงคาน อีไลฟ์มาถึงเชียงคานก็บ่ายแก่ๆแล้วค่ะ เตรียมเก็บของเข้าที่พักแล้วมาเที่ยวตลาดตอนเย็นกัน

บรรยากาศที่เชียงคาน
ถนนคนเดินมีของกินเพียบเลยค่ะ
วันที่ 2 สวนสาธารณะของอำเภอเชียงคาน

รถเข็นไฟฟ้าน้ำหนักเบา

รถเข็นไฟฟ้าพับ เที่ยว

สวนสาธารณะของอำเภอเชียงคาน เป็นอีกหนึ่งจุดชุมวิวที่สวยงาม ยามเช้าไม่ว่าจะหน้าหนาวหรือแม้กระทั่งหน้าร้อน ริมแม่น้ำโขงก็จะมีหมอกภายในสวนร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อน และออกกำลังกายยามเช้านี่ถ้าไม่ใช่รถเข็นไฟฟ้า PW-301 Plus ก็ไม่สามารถปรับเอน 45 องศาแบบนี้ได้นะคะ ไม่ว่าจะนอนพักสายตา อ่านหนังสือที่ชอบสักเล่ม ถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอเพื่อบันทึกช่วงเวลาดี ๆ ก็สามารถทำได้อย่างสบาย ๆ เลยค่ะ

รถเข็นไฟฟ้าพับ เที่ยว

พับเก็บใส่ท้ายรถสบายๆ แถมสามารถใส่รถเข็นแมนนวลเพิ่มมาได้อีก 1 คัน

รถเข็นไฟฟ้าพับ เที่ยว

PW-301 Plus มีวิธีพับ-กางไม่ซับซ้อมยุ่งยาก ผู้ดูแลสามารถทำเองได้แน่นอนค่ะ

รถเข็นไฟฟ้าพับ เที่ยว

ด้วยที่เป็นรถเข็น PW-301 Plus ล้อยางตันและมีขนาดหน้ายางที่กว้าง จึงมีคุณสมบัติป้องกันแรงกระแทกได้ดี ไม่ว่าจะเป็นถนนพื้นผิวขรุขระ พื้นที่ต่างระดับ เป็นทราย กรวด ก้อนหิน ไม่เป็นปัญหาในการบังคับและอีกคุณสมบัติพิเศษก็คือ PW-301Plus มีระบบเบรคแม่เหล็กไฟฟ้าคือเมื่อผู้ใช้งานหยุดบังคับรถจะหยุดนิ่งทันทีไม่มีการดีเลย์ ซึ่งจะส่งผลทำให้เมื่อหยุดรถเข็นบนทางลาดรถจะไม่ไหลนั้นเอง ถ้าอ่านยังคงไม่เห็นภาพลองไปชมในวีดีโอกันเลยค่ะ….

สรุปรีวิวที่พารถเข็นไฟฟ้า PW-301Plus ไปเที่ยวเชียงคาน
  • ไม่ได้ยุ่งยากแบบที่คิดค่ะ แต่เราต้องวางแผนและโทรแจ้งกับเจ้าหน้าที่สายการบินให้เคลียร์ก่อนวันเดินทางจริง
  • น้ำหนักของรถเข็นค่อนข้างเบาหากเทียบกับรถเข็นไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ ซึ่งปกติรถเข็นไฟฟ้าที่อยู่ในหมวดเน้นน้ำหนักเบาจะนั่งไม่ค่อยสบาย โครงสร้างจะเป็นอลูมิเนียมบางแต่ PW-301Plus มีเบาะที่ค่อนข้างกว้าง หนานุ่ม โครงหนารู้สึกมั่นคง สามารถลุยบนถนนขรุขระ หินกรวด ได้สบายๆ มอเตอร์ค่อนข้างแรงไม่ดีเลย์และไม่มีเสียงรบกวน  สำหรับผุ้สูงอายุที่มีช่วงตัวสะโพกกว้างสามารถนั่งได้ชิลๆเลย
  • แบตเตอรีน้ำหนักเบาไม่เป็นปัญหาตอนพกติดตัวขึ้นเครื่องไปด้วย
  • เชียงคานเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจ หากต้องการพาคุณพ่อคุณแม่ไปเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์  บรรยากาศดี อาหารอร่อย แนะนำค่ะ