fbpx

วิธีเลือกรถเข็นไฟฟ้า / Power Wheelchair buyer guide

วิธีเลือกรถเข็นไฟฟ้า / Power Wheelchair buyer guide

หลักการเลือกวีลแชร์ไฟฟ้า,รถเข็นไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด

 วีลแชร์ไฟฟ้าคืออะไร? 

  • หรือรถเข็นไฟฟ้า คืออุปกรณ์เครื่องใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนไหวสำหรับผู้พิการ ผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุ มีลักษณะเป็นเก้าอี้เคลื่อนที่โดยการบังคับผ่านไฟฟ้า

ประโยชน์ของวีลแชร์ไฟฟ้า

  • วีลแชร์ไฟฟ้ามีความจำเป็นในการส่งเสริมให้มีสุขภาวะที่ดี ทั้งด้านสุขภาพ สังคมและเศรษฐกิจ เพราะการเคลื่อนที่เป็นการเปิดโอกาสให้สามารถเข้าถึงสังคมภายนอกได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการไปเรียน ไปทำงาน เข้าร่วมกิจกรรมวัฒนธรรม เข้าถึงบริการต่างๆ
  • ทำให้รู้สึกว่าตัวเองไม่เป็นภาระคนอื่น รู้สึกมีคุณค่าในตัวเองมากขึ้น
  • วีลแชร์ไฟฟ้าจะทำให้รู้สึกเป็นอิสระ ควบคุมชีวิตได้ง่ายมากขึ้น
  • ปัจจุบันมีให้เลือกใช้งานหลายรุ่นหลายแบบเพื่อตรงกับความต้องการมากยิ่งขึ้น

วีลแชร์ไฟฟ้าเหมาะกับใครบ้าง?

  • วีลแชร์ไฟฟ้าเหมาะสมกับทุกเพศทุกวัย
  • บุคคลที่มีความบกพร่องทางด้านร่างกายที่ส่งผลกับการเคลื่อนที่รูปแบบต่างๆ
  • ผู้สูงอายุ ที่มีปัญหาเรื่องการเคลื่อนที่หรือการเดินทางในระยะไกลๆ
  • ผู้ป่วยหลังผ่าตัด

การเลือกวีลแชร์ไฟฟ้าให้เหมาะสมกับผู้ใช้งานมีความสำคัญมากที่สุด ควรพิจารณาดังนี้

  • ขนาดวีลแชร์ที่เหมาะสม ขนาดที่ดีจะส่งผลให้ผู้ใช้งานนั่งสบาย รองรับร่างกายพอดีขณะนั่ง จึงทำให้ใช้งานได้ง่ายถนัดมือและเมื่อใช้งานถนัดก็จสามารถลดการเกินอุบัติเหตุและแผลกดทับจากการนั่งวีลแชร์นานๆได้
  • โครงสร้างวีลแชร์ในปัจจุบันส่วนใหญ่โครงสร้างเป็นอลูมิเนียมหรือเหล็ก แต่อลูมิเนียมจะเป็นที่นิยมมากกว่าเหล็กเพราะว่าไม่ทำให้เกิดสนิมดังนั้นจึงมีอายุการใช้งานที่นานกว่าและมีน้ำหนักเบา ดูแลรักษาง่าย

 

(โครงสร้างวีลแชร์ที่เป็นทรงกากบาทจะทำให้วีลแชร์บาลานซ์น้ำหนักได้ดี เวลานั่งจะทำให้น้ำหนักสมดุล มีความมั่นคงมากขึ้น)

  • เลือกมอเตอร์ที่เป็น Brushless เพราะมีอายุการใช้งานนานกว่า เครื่องไม่ร้อนเร็วเวลาใช้งานเป็นเวลานาน
  • แบตเตอรี่ วีลแชร์ไฟฟ้าแนะนำเป็นแบตลิเธียม เพราะสามารถใช้ได้ระยะเวลานาน(อึดทน) น้ำหนักเบา และสามารถพกขึ้นเครื่องบินได้
  • ที่พักแขน ควรสามารถเปิดข้างได้เพราะจะทำให้การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและผู้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น
  • ที่พักเท้า สามารถเก็บออกข้างได้
  • ล้อควรเป็นล้อยางตันเพราะมีความทนทาน ไม่ต้องเสียเวลาเติมลม ดูแลรักษาง่าย
  • โครงสร้างของวีลแชร์ควรเป็นอลูมิเนียม เพราะจะไม่ทำให้รถเกิดสนิมทำให้วีลแชร์มีอายุการใช้งานที่นานขึ้น
  • หากได้ทดลองวีลแชร์จริงๆ ควรเลือกคันที่บังคับสมูทมากที่สุด ไม่กระชากและไม่ฝืดจนเกินไป
  • ตรวจสอบบริการหลังการขายและอะไหล่ซัพพอร์ต

วีลแชร์ไฟฟ้าใช้งานอย่างไร?

  • บังคับผ่านรีโมทคอนโทรลหรือ Joystick ใช้งานคล้ายรถบังคับ ในรีโมทคอนโทรลสามารถเลือกความเร็ว เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินต่างๆ และเมื่อปิดระบบไฟฟ้าสามารถใช้งานแบบแมนนวลได้

โครงสร้างวีลแชร์ไฟฟ้า 

  •  หลักๆทั่วไปรถเข็นไฟฟ้าจะทำด้วย เหล็กผสม และ อลูมิเนียม เหล็กจะมีน้ำหนักรถที่มากกว่าในความแข็งแรงเท่าๆกันกับ อลูมิเนียม แต่วีลแชร์ไฟฟ้าที่มีโครงสร้างเป็นอลูมิเนียม มีน้ำหนักเบาและราคาสูงกว่า แต่ไม่ขึ้นสนิม

วีลแชร์ไฟฟ้ามีกี่ประเภท ?

สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทตามการใช้งาน

  1. วีลแชร์ไฟฟ้าที่ใช้งานในชีวิตประจำวัน :  เน้นใช้งานในบ้านหรือบริเวณบ้าน
  2. วีลแชร์ไฟฟ้าที่ใช้ในการท่องเที่ยว : เน้นนำไปใช้งานนอกสถานที่เป็นประจำ

วีลแชร์ไฟฟ้าที่ใช้งานในชีวิตประจำวัน

วีลแชร์ไฟฟ้าที่ใช้ในการท่องเที่ยว

น้ำหนักเยอะ 29 ก.ก ขึ้นไป น้ำหนักเบา 13.5 ก.ก ขึ้นไป
พับเก็บได้ แต่ไม่นิยมพับ พับเก็บได้ง่ายและขนาดเล็ก
ขนาดค่อนข้างใหญ่ ขนาดเล็กไปจนถึงใหญ่
โครงสร้าง เหล็กหรืออลูมิเนียม โครงสร้างอลูมิเนียม
นำใส่ท้ายรถได้ นำใส่ท้ายรถได้
ไม่นิยมนำขึ้นเครื่องบิน สามารถนำขึ้นเครื่องได้
แบตเตอรี่เป็นแบตแห้ง  (Lead acid) แบตเตอรี่เป็นแบตลิเธียม (Lithium Ion)
ล้อยางตัน ล้อยางตัน
ล้อหลังมีขนาดใหญ่ ล้อขนาดเล็กทั้ง 4 ล้อ
สามารถปิดไฟฟ้าแล้วเข็นแมนนวลได้โดยผู้ใช้งานหรือผู้ดูแล สามารถปิดไฟฟ้าแล้วเข็นแมนนวลได้โดยผู้ดูแล
มอเตอร์ส่วนใหญ่เป็น Brushed มอเตอร์ Brushless
ระบบเบรคไฟฟ้า ระบบเบรคไฟฟ้าหรือระบบเบรคแม่เหล็กไฟฟ้า
ราคาประหยัด ราคาค่อนข้างสูง

” เน้นใช้งานในบ้านหรือบริเวณบ้าน “ เบื้องต้นให้สำรวจความต้องการของผู้ใช้งานและผู้ดูแลผู้สูงอายุ หรือผู้พิการเป็นหลักที่มีความต้องการไม่เหมือนกัน บางคนต้องการรถเข็นไฟฟ้าที่ใช้งานภายในบริเวณบ้าน ไม่ต้องมีการยกหรือเคลื่อนย้าย สามารถเลือกซื้อรถเข็นไฟฟ้าที่มีน้ำหนักเยอะได้ เพราะไม่จำเป็นต้องใช้งานนอกบ้านบ่อยๆ ราคาก็จะประหยัดลง ช่วยให้เซฟเงินในกระเป๋าได้เยอะ เนื่องจากโครงสร้างผลิตจากคาร์บอนสตีล และโครงสร้างทำจากอลูมิเนียม มีความเหนียว หนา แข็งแรง รับแรงกระแทกได้ดี


” เน้นนำไปใช้งานนอกสถานที่เป็นประจำ “  หากการใช้งานเน้นพกพา นำไปใช้นอกสถานที่ ต้องเลือกใช้งานรถเข็นไฟฟ้าที่มีน้ำหนักเบา คนยกจะได้สะดวกเพราะรถเข็นไฟฟ้าไม่หนักมาก และโครงสร้างรถเข็นไฟฟ้าน้ำหนักเบาเป็นโครงสร้างเกรดพรีเมียม วัสดุมีน้ำหนักเบาแล้ว ยังสามารถรองรับน้ำหนักได้ดี รถเข็นไฟฟ้าน้ำหนักเบา รับน้ำหนักผู้นั่งได้สูงถึง 120 กก.  รถเข็นไฟฟ้าของ Elife มีสินค้าประเภทน้ำหนักเบาอยู่ด้วยกันทั้ง 3 รุ่นตามคำถามที่พบบ่อยในข้อ 1 ด้านบน มีดังนี้

*ข้อแนะนำ : ไม่ควรเลือกรถเข็นไฟฟ้าที่มีที่นั่งขนาดใหญ่ให้กับผู้ใช้ที่มีขนาดตัวเล็กเพราะจะทำให้ในการใช้งานโดยเฉพาะเวลาขับขี่ตัวของผู้ใช้จะไม่กระชับกับที่นั่งซึ่งนั่นอาจทำให้ตัวของผู้ใช้โครงเครงในระหว่างที่ขับขี่เลี้ยวรถ หรือขับขี่บนทางขรุขระ ​และเนื่องจากรถเข็นไฟฟ้ารุ่นที่มีที่นั่งขนาดใหญ่นั้นก็จะมีคุณสมบัติที่สามารถรับน้ำหนักได้เยอะ และตัวโครงสร้างก็จะใหญ่และมี่น้ำหนักมากกว่ารถเข็นไฟฟ้าที่มีที่นั่งขนาดเล็ก ตัวอุปกรณ์ไฟฟ้าและโครงสร้างก็จะมีการออกแบบมาให้รับน้ำหนักของผู้นั่งได้มากตามขนาดของที่นั่งด้วย เช่นรถเข็นไฟฟ้าที่มีขนาดที่นั่งใหญ่ก็จะมักจะมีมอเตอร์ที่มีกำลังมากกว่ารถเข็นไฟฟ้าที่มีขนาดที่นั่งเล็ก และแบตเตอรี่ของรถเข็นไฟฟ้าที่มีที่นั่งขนาดใหญ่ก็จะมีแบตเตอรี่ที่มีความจุไฟมากกว่า

*ข้อแนะนำ : ผู้ใช้ควรสังเกตุสเปคของรถเข็นไฟฟ้าที่มีที่นั่งขนาดใหญ่ และขอให้แน่ใจว่ามีสเปค (เช่นโครงสร้าง กำลังมอเตอร์ และ ความจุแบตเตอรี่) จะต้องสูงกว่ารถเข็นไฟฟ้าที่มีที่นั่งขนาดเล็ก เนื่องจากรถเข็นไฟฟ้าที่มีที่นั่งขนาดใหญ่ ต้องรับน้ำหนักมากกว่า และนอกเหนือจากนั้น ลูกค้าบางท่านที่ต้องการใช้รถเข็นไฟฟ้าในที่แคบๆ เช่นในบ้าน โดยขับขี่เข้า-ออกประตูห้องต่างๆ ก็ควรเลือกรถเข็นไฟฟ้าที่มีขนาดเหมาะสมกับขนาดของประตู (โดยปกติ ขนาดประตูห้องน้ำจะประมาณ 75ซม. ประตูห้องนอนจะประมาณ 80ซม.) หรือเหมาะสมกับขนาดของทาง หรือ ทางลาดที่ต้องใช้รถเข็นไฟฟ้าวิ่งผ่าน


มอเตอร์ของวีลแชร์ไฟฟ้า

มอเตอร์ของรถเข็นไฟฟ้าเป็นส่วนสำคัญมาก คือเป็นหัวใจในการขับเคลื่อน มอเตอร์ของรถเข็นไฟฟ้าจะมีสองด้าน ทำงานอิสระต่อกัน (สามารถบังคับหมุนรอบตัวเองได้ ด้านขวาหมุนถอยหลัง ด้านซ้ายหมุนเดินหน้า) ทำให้เคลื่อนที่ในที่แคบได้ กำลังของมอเตอร์ระบุเป็น Watt เช่น 200Watt, 250Watt เป็นต้น โดยมอเตอร์วีลแชร์ไฟฟ้าสามารถแบ่งได้เป็น 2ประเภท

Brushed คือ มอเตอร์ที่มีแปรงถ่าน แปรงถ่านคือส่วนที่สัมผัสกันระหว่างขั้วไฟฟ้าของโรเตอร์กับสเตเตอร์ ทำให้มอเตอร์ชนิดนี้เกิดความเสียดสีกันเกิดขึ้น

Brushless คือ มอเตอร์ที่ไม่มีแปรงถ่าน คือไม่มีส่วนที่สัมผัสกันระหว่างขั้วไฟฟ้าโรเตอร์และสเตเตอร์ ทำให้ไม่เกิดการเสียดสี กระแสไฟฟ้าสามารถวิ่งสู่ขดลวดได้โดยตรง และเกิดเป็นแรงแม่เหล็กผลักขั้วแม่เหล็กตรงกลางให้หมุนนั่นเอง

ความแตกต่างระหว่าง  Brushless motor VS Brushed(DC)

Brushless motor Brushed (DC)
ไม่มีโอกาสที่จะเกิดประกายไฟ มีโอกาสเกิดประกายไฟหากใช้งานนานเกินไป
ขนาดเล็ก ขนาดใหญ่
น้ำหนักเบา มีน้ำหนัก
เสียงเงียบกว่า มีเสียงดังกว่า
บังคับง่าย ไม่ค่อยฝืด สมูท อาจจะมีการฝืดหรือดีเลย์เล็กน้อย
 ใช้งานยุ่งยากกว่าเพราะมันจำเป็นต้องใช้งานกับESC(Electronics Speed Controller) สามารถต่อไฟใช้งานได้เลย
ราคาสูงกว่า ราคาถูกกว่า
กินไฟฟ้าน้อยกว่า กินไฟมากกว่า
ใช้ได้นานกว่า เพราะมันไม่มีแปรงถ่าน ไม่ต้องเปลี่ยนถ่าน ใช้งานได้สั้นกว่าเพราะแปรงถ่านเมื่อใช้งาน จะเกิดการเสียดสี จนสึกหรอ ทำให้กระแสไฟฟ้าเดินไม่สะดวก มอเตอร์ไม่ทำงาน จึงทำให้ต้องเปลี่ยนใหม่
มีประสิทธิภาพสูงกว่า เพราะ ไม่มีแปรงถ่านทำให้ไม่เกิดการสูญเสียแรงดันที่แปรงถ่าน (Voltage Drop) ประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับแปรงถ่าน
ระยะการใช้งาน 2-3 ปี ระยะการใช้งาน 1-3 ปี (หากใช้งานบ่อยอาจจะต้องเปลี่ยนถ่าน ขึ้นอยู่กับการใช้งานค่ะ)

ระบบเบรควีลแชร์ไฟฟ้า

ระบบเบรควีลแชร์ไฟฟ้าแบ่งออกได้ 2 ประเภท คือ ระบบเบรคไฟฟ้า(Electronic Brake) และระบบเบรคหน่วงไฟฟ้า (Electromagnetic Brake)

ระบบเบรคไฟฟ้า(Electronic Brake) ระบบเบรคแม่เหล็กไฟฟ้า(Electromagnetic Brake)
เป็นระบบเบรคที่อยู่ในวีลแชร์ไฟฟ้าระบบมอเตอร์ DC ธรรมดา เป็นระบบเบรคที่อยู่ในวีลแชร์ไฟฟ้าระบบ Brushless motor
อยู่บนทางลาดมีโอกาสไหล สามารถหยุดบนทางลาดได้ ไม่ไหล
เวลาหยุดรถจะไม่เบรคทันที ดีเลย์เล็กน้อย เมื่อหยุดรถ วีลแชร์จะหยุดเคลื่อนไหวทันที
ราคาประหยัด ราคาสูงกว่า

Controller/Joy Stick? 

แต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อจะใช้ Controller ไม่เหมือนกัน บางรุ่นตอบสนองเร็ว บางรุ่นตอบสนองช้า มี Function การทำงานน้อยกว่า แต่หลักๆคือสามารถรับระดับความเร็วได้ มีไฟบอกสถานะแบตเตอรี่ และ มีแตรไฟฟ้า อาจจะไปลองที่ร้านขายรถเข็นไฟฟ้าเพื่อทดสอบ การตอบสนองของ controller

ล้อวีลแชร์ไฟฟ้า ยางลม VS ยางตัน ?
รถเข็นไฟฟ้าเหมือนรถเข็นวีลแชร์ทั่วๆไป มีทั้งเป็นแบบยางลมและยางตัน ยางลมโดยรวมจะถูกกว่าเบากว่า แต่ต้องมีการเติมลมเรื่อยๆ อาจจะไม่สะดวกกับคนแก่ที่อยู่คนเดียว ยางตันจึงออกมาตอบโจทย์ในเรื่องการดูแลรักษา แม้อาจจะไม่นิ่มเท่ายางลม ปัจจุบันยางตันถูกพัฒนากออกมาได้นิ่มรับแรงกระแทกได้ใกล้เคียงยางลมแล้ว

ล้อยางเติมลม

จุดเด่นคือ เวลาขับเคลื่อนมีความนุ่มนวลกว่า สามารถปรับความแข็งของลมยางได้ ราคาประหยัด หาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป

จุดด้อยคือ  อาจจะต้องคอยเติมลมอยู่บ่อย ๆ  ต้องระวังวัตถุแหลมคม เช่น ตะปู เพราะหากโดนตำเข้าไปแล้วจะทำให้ยางรั่วได้ แต่ก็สามารถปะได้เช่นเดียวกับยางรถยนต์

ล้อยางตัน

จุดเด่นคือ แข็งแรง ทนทาน มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน แทบจะไม่ต้องมีการบำรุงรักษา

จุดด้อยคือ น้ำหนักมากกว่ายางเติมลม ยางตันในปัจจุบันได้มีการพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าอดีตเยอะมาก วัสดุที่นำมาผลิตมีคุณภาพ และประสิทธิภาพดีมาก ทำให้ราคาค่อนข้างสูง

แบตเตอรี่วีลแชร์ไฟฟ้า แบตแห้ง VS แบตลิเธียมไอออน ?
รถเข็นไฟฟ้าขับเคลื่อนด้วยแหล่งไฟจาก Battery แต่ก่อนจะมีแต่แบตแห้ง (หน้าตาคล้ายแบตมอเตอร์ไซค์) มีนน. 5-10Kg ปัจจุบันมีการพัฒนแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนให้มีความจุมากขึ้น หากเทียบแล้วแบตเตอรี่ที่มีขนาดเท่ากันเช่น 24V 8AH แบตทั่วไปแบตแห้งจะน้ำหนักประมาณ 9Kg ส่วนแบตเตอรี่แบบ Lithium Ion มีน้ำหนักเพียง 2Kg เท่านั้น

แบตแห้ง (Lead acid)  แบตลิเธียมไออน (Lithium Ion)
น้ำหนัก 5-10 กิโลกรัม น้ำหนัก 2-5 กิโลกรัม
กำลังไฟน้อยกว่า กำลังไฟมากกว่า
ไม่นิยมนำขึ้นเครื่องบิน นิยมนำขึ้นเครื่องบิน
ราคาประหยัด ราคาสูงกว่า

วิธีการชาร์จแบตวีลแชร์ไฟฟ้า สามารถชาร์จผ่านตัวอะแดปเตอร์กับไฟฟ้าบ้านปกติ


วีลแชร์ประเภทไหนที่สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้

วีลแชร์ไฟฟ้าที่สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้ต้องมีความจุแบตไม่เกิน 300Wh หากมีแบต 2 ก้อนต้องไม่เกินข้างละ 160Wh และปัจจุบันนิยมให้แบตเตอรี่ลิเธียม ไอออน เพราะประสิทธิภาพของแบตลิเธียมสามารถใช้ได้นานกว่า น้ำหนักเบากว่า ทำให้น้ำหนักโดยรวมของรถเข็นไฟฟ้ามีน้ำหนักที่เบาและเหมาะสมกับการท่องเที่ยว ดังนั้นหากต้องการรถเข็นไฟฟ้าสำหรับท่องเที่ยวควรเลือกที่เป็นแบตลิเธียมนะคะ

แนะนำรถเข็นไฟฟ้าน้ำหนักเบาเหมาะสำหรับการเดินทาง ท่องเที่ยว

อาจจะอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ รีวิวนำรถเข็นไฟฟ้าขึ้นเครื่องบิน

 ซื้อรถเข็นไฟฟ้ากับ Elife ดีกว่าอย่างไร ?  

และยังคงมีหลายๆ ท่าน ที่กำลังมองหารถเข็นไฟฟ้าไปไว้ใช้งาน แน่นอนว่าหากมีความต้องการที่จะซื้ออะไรแล้ว ต้องรอบคอบ และเปรียบเทียบราคาอย่างแน่นอน แต่หากซื้อสินค้าในราคาที่ถูกมาก สินค้าไม่มีรับประกัน ไม่มีบริการหลังการขาย หรือบริการหลังการขายที่ไม่ดี หากใช้งานไปแล้วในอนาคต เกิดปัญหาขึ้น รถเข็นไฟฟ้าชำรุด เสื่อม โทรม จะหาร้านที่รับซ่อมหรือซื้ออะไหล่ น่าจะเป็นเรื่องยาก แต่สำหรับรถเข็นไฟฟ้าของทาง Elife เอง ถือว่าราคาไม่สูงมากนัก ลูกค้าทั่วไปสามารถจับต้องได้ สามารถเลือกซื้อไปไว้ใช้งานได้ ที่สำคัญเรามีบริการหลังการขายที่ดีลูกค้าที่เคยได้ใช้บริการแล้วติดใจ บอกต่อกันแบบปากต่อปาก และที่สำคัญรถเข็นไฟฟ้าเป็นสินค้าที่เราสั่งผลิตเอง ดังนั้นอะไหล่ทุกชิ้นส่วนเรามีไว้คอยบริการลูกค้า Elife โดยเฉพาะ ดังนั้นอยากจะแนะนำว่าหากเปรียบเทียบราคากันแล้วราคาไม่ต่างกันมาก แนะนำให้ลูกค้าเลือกใช้บริการรถเข็นไฟฟ้าจากทางแบรนด์ Elife ที่มีทั้งหน้าร้านให้ทดลองรถเข็นไฟฟ้า มีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญที่คอยให้คำแนะนำ และที่สำคัญมีบริการซ่อมบำรุงโดยช่างเฉพาะทางอีกด้วยค่ะ