fbpx

วิธีเลือกเครื่องใช้ Ergonomicให้เหมาะสมกับตัวคุณ

วิธีเลือกเครื่องใช้ Ergonomicให้เหมาะสมกับตัวคุณ

มีงานวิจัยมากมายเกี่ยวกับ Ergonomic หรือ หลักการยศาสตร์ ศาสตร์ที่ว่าด้วยเลือก การจัดสภาพแวดล้อมการทำงานให้ทำงานได้เหมาะสม ด้วยเพราะว่ากว่า 90% พนักงานออฟฟิศได้รับความเจ็บปวดจากการทำงานและส่งผลเสียกับสุขภาพที่มีผลระยะยาวมากขึ้น (และหากท่านใดยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับความหมายของ Ergonomic สามารถบทความนี้ได้เลยค่ะ >>>>ให้ความสำคัญกับชีวิต…มารู้จัก Ergonomics )

และข่าวดีของชาวออฟฟิศ เพราะปัจจุบันนี้มีวัสดุทางการยศาสตร์ที่สามารถปรับให้เข้ากับการทำงาน สรีระร่างกายของแต่ละคนได้อย่างเหมาะสม อย่างเช่น โต๊ะปรับระดับไฟฟ้า Standing Desk , เก้าอี้ทำงาน Ergonomic , แผ่นรองเท้า ซึ่งเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้มีให้เลือกมากมายหลายยี่ห้อ หลายรูปแบบ สำหรับใครที่กำลังเลือกหาวิธีการ,ประเภทของเฟอร์นิเจอร์ Ergonomic แต่ละแบบให้เหมาะกับตัวเองวันนี้อีไลฟ์มีคำตอบค่ะ

1. เก้าอี้ทำงาน Ergonomic Office Task Chairs

เก้าอี้ทำงานที่ดีเป็นจำเป็นอย่างยิ่งในการทำงานเพราะเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้กับร่างกายของเรามากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เริ่มมีอาการปวดหลัง คอ บ่า ไหล่ ซึ่งเป็นสัญญาณของอาการออฟฟิศซินโดรม นอกจากนี้ยังเพื่อความสะดวกบาย โดยส่วนใหญ่ท่านอาจจะรู้จักในชื่อ เก้าอี้ผู้บริหารหรือเก้าอี้สำหรับเกมเมอร์ แต่จริงๆแล้วเก้าอี้ทำงาน Ergonomic จะไม่เหมือนเก้าอี้ประเภทดังกล่าว โดยสามารถพิจารณาตามหลักต่อไปนี้ค่ะ

  • พนักพิงสามารถปรับเอนหรือเอียงได้ Backrest recline and tilt มีงานวิจัยออกมาแล้วว่าเก้าอี้ที่มีฟังก์ชันปรับเอนหลังได้สามารถช่วยลดแรงกดทับที่หลังได้เป็นอย่างดี รองรับกระดูกสันหลังในส่วนของ Head ,Back, Lumbar ได้อย่างพอดีมากกว่าเก้าอี้ธรรมดาทั่วไป
  • ฟังก์ชั่นการปรับเบาะเอียงและเลื่อนเข้าออก Seat Adjust (Slide and Tilt) ฟังก์ชั่นนี้เพื่อทำให้เท้าของคุณสามารถวางแนบกับพื้นได้อย่างพอดีในกรณีที่ไม่มีแผ่นรองเท้าหรือขาไม่ถึงพื้น ช่วยลดการกดทับเป็นเวณข้อพับเข่าทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น และยังช่วยให้คุณสามารถหาตำแหน่งสำหรับวางขาได้สบายมากขึ้น โดยส่วนใหญ่ฟังก์ชันนี้จะอยู่ในเก้าอี้ Ergonomic ที่ราคา 20,000 บาทขึ้นไป

  • วัสดุนุ่มสบาย ระบายอากาศได้ดี Comfortable Material หากคุณมองที่ดีไซน์ที่ดูฮารูฮาราหรูหรานั้นต้องไปสายเก้าอี้เกมเมอร์แน่นอนแต่ความจริงแล้วเก้าอี้ที่เหมาะสมกับการนั่งนานๆนั่นควรที่มีเบาะและพนักพิงที่สามารถระบายอากาศได้ดีแต่ยังคงสภาพความนั่งสบายไว้อยู่ ดังนั้นเก้าอี้ Ergonomic ส่วนใหญ่จึงใช้วัสดุที่เป็นตาข่ายหรือเบาะผ้าที่สามารถระบายอากาศได้ดี ไม่ค่อยนิยมใช้เป้นวัสดุหนังเพราะเมื่อนั่งไปในนานๆจะรู้สึกร้อนบริเวณข้อพับเข่า เหงื่อออกทำให้นั่งไม่สบาย และส่วนนี้แหละทำให้ราคาของเก้าอี้ Ergonomic นั่นมีราคาสูงกว่าเก้าอี้ทำงานทั่วๆไป
  • ที่พักแขนสามารถปรับระดับได้ Armrest โดยทั่วไปพื้นฐานของเก้าอี้ทำงานที่พักแขนต้องสามารถปรับระดับสูงต่ำได้ แต่ความพิเศษของเก้าอี้ Ergonomic คือต้องสามารถปรับเป็น 3D – 4D Armrest นั่นคือการเลื่อนหน้า-หลัง,เอียงซ้าย-ขวา,เข้า-ออก เพื่อเป็นการบังคับร่างกายในส่วนของหลัง ข้อศอก การวางแขน ตำแหน่งของมือ อยู่ในตำแหน่งองศาที่เหมาะสม

  • เก้าอี้สามารถปรับระดับสูง-ต่ำและพนักพิงปรับสูง-ต่ำได้ (Adjustable Height & Backrest Up-Down) ฟังก์ชันนี้สำหรับคนที่ยังไม่มีโต๊ะปรับระดับไฟฟ้าอย่างน้อยเก้าอี้ก็ควรประระดับสูง-ต่ำได้ เพราะความสูงของแต่ละคนนั่นไม่เท่ากันการมีเก้าอี้ที Fix ความสูงนั้นอาจทำให้ขาไม่ถึงพื้น ขาลาก ทำให้นั่งทำงานได้ไม่ถนัด (ซึ่งเก้าอี้ทำงานส่วนใหญ่มักทำได้อยู่แล้ว) แต่ที่พิเศษคือสามารถปรับระดับสูง-ต่ำของพนักพิงได้เพื่อซัพพอร์ตหลังของคุณขณะนั่งทำงานได้ตลอดเวลาหรือบังคับให้คุณนั่งหลังตรงนั่นเอง ซึ่งการนั่งในลักษณะนี้สามารถช่วยลดแรงกดทับกระดูกส่วนหลัง และ Lumbar เป็นบริเวณที่ผู้คนมักปวดบ่อยๆนั่นเอง

ประเภทของเก้าอี้ทำงาน Ergonomic

  • Ergonomic Office Chairs : ลักษณะจะคล้ายกับเก้าอี้ทำงานทั่วไปแต่ดีไซน์จะดูล้ำสมัยมากกว่า ประกอบด้วยที่รองศีรษะสำหรับซัพพอร์ตคอ,พนักพิงสามารถปรับระดับต่างๆได้และล็อคระดับเอาไว้ได้ เรียกได้ว่าทุกส่วนที่สัมผัสกับร่างกายนั้นสามารถปรับได้ทั้งหมด ซึ่งเหมาะกับชาวออฟฟิศทั่วไปที่ต้องนั่งทำงานเป็นเวลานาน ผู้ที่เริ่มมีอาการปวดหลัง (ราคาเริ่มต้น 10,000-100,000 บาทขึ้นอยู่กับฟังก์ชัน,วัสดุและแบรนด์)

  • Active Seating : หรือเก้าอี้สตูล (Stool) มีลักษณะคล้ายเก้าอี้บาร์ไม่มีพนักพิง เมื่อนั่งแล้วให้ความรู้สีกเหมือนควบม้าเก้าอี้ประเภทนี้จะบังคับให้เรานั่งหลังตรงตลอดเวลาช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดี ส่วนใหญ่นิยมใช้งานในอาชีพทันตแพทย์ วิทยากร พิธีกร เป็นต้น

2. โต๊ะทำงานปรับระดับไฟฟ้า Ergonomic Desk , Standing Desks

เช่นเดียวกับเก้าอี้ โต๊ะทำงานที่สามารถปรับระดับได้ก็สำคัญไม่แพ้กันเพราะจริงๆแล้วถึงมีเก้าอี้ที่ดีเลิศขนาดไหน การนั่งนานจนเกินไปก็ส่งผลเสียกับร่างกายอยู่ดี จุดประสงค์แรกที่ควรใช้โต๊ะที่สามารถปรับระดับสูง-ต่ำนั่นคือคุณจะได้ระดับความสูงของโต๊ะที่เหมาะสม แขนไม่ยื่นสูงหรือต่ำจนเกินไป อีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนอริยบทในการทำงานเป็นการยืนบ้างนั่นเอง และในปัจจุบันโต๊ะปรับระดับเริ่มเป็นที่นิยมแล้วเพราะคนส่วนใหญ่มัก WFH จึงเริ่มใช้ Ergonomic Desk เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถตกแต่งบ้านและทำงานในเวลาเดียวกัน เพราะส่วนใหญ่นั่นคนใช้งานสามารถเลือกหน้า Top ของโต๊ะได้ตามต้องการไม่ว่าจะเป็นชนิดของไม้ สี และขนาด ซึ่งส่งผลกับเรื่องคุณภาพและราคานั่นเอง

  • มอเตอร์ที่มีคุณภาพ Motor Quality / Dual Motors ขึ้นชื่อว่าเครื่องใช้ไฟฟ้ามอเตอร์ก็เหมือนหัวใจของการทำงาน มอเตอร์ที่มีคุณภาพสูงก็จะส่งผลต่อความปลอดภัย ระยะเวลาที่สามารถใช้งาน และประสิทธิภาพ นอกจากคำนึงราคาแล้วอย่างลืมคำนึงถึงคุณภาพด้วยนะคะ
  • ขาที่มี 3 ข้อ Leg 3 Stage เพราะขา 3 Stage จะมีฟังก์ชันการปรับสูง-ต่ำ ได้มากกว่า และสามารถรับแรงกระแทกจากน้ำหนักบนโต๊ะได้ดี
  • ขนาดที่เหมาะสมกับตัวคุณมากที่สุด Size Balance  การใช้โต๊ะที่เล็กหรือใหญ่เกินไปไม่ใช่เรื่องดี ควรเลือกขนาดที่พอดีสำหรับวางอุปกรณ์ในการทำงาน เพื่อที่คุณสามารถจัดสัดส่วนพื้นที่การทำงานของคุณได้อย่างลงตัวและต้องตรวจสอบขนาดสภาพแวดล้อมของห้องนั้นๆว่าสามารถรับขนาดของโต๊ะได้ประมาณเท่าไหร่

  • เลือกที่เป็นขอบโต๊ะที่โค้งมน เพื่อลดอุบัติเหตุ เช่น การชนขอบโต๊ะแถมยังให้ในเรื่องความสวยงามอีกด้วย
  • หน้าไม้มีความหนา 20 mm. สาเหตุที่ต้องเลือกหน้าไม้ที่มีความหนานอกจากเรื่องของความแข็งแรงแล้วยังเกี่ยวกับใช้โต๊ะร่วมกับอุปกรณ์เสริม เช่น Monitor Arm, Keyboard Tray , Strip Organizer หากมีความหนาที่ไม่เพียงพอก็จะไม่สามารถใช้อุปกรณ์เสริมเหล่านี้ได้
  • หน้าจอแสดงผลเป็น Digital เพื่อง่ายต่อการใช้งาน มีระดับความสูงที่ชัดเจน
  • ระบบ Anti Collision เพื่อป้องกันโต๊ะกระแทกกับสิ่งกีดขวางและสร้างความเสียหาย

ประเภทของโต๊ะปรับระดับไฟฟ้า Ergonomic Desk

  • โต๊ะทำงานแบบ 2 ขา Dual Column นิยมมากที่สุดเหมาะสำหรับคนที่พื้นที่ในการทำงานที่ค่อนข้างกว้าง ต้องการใช้สอยพื้นที่เยอะๆ เหมาะสำหรับออฟฟิศทั่วไป,ร้านอาหาร ,WFH,ห้องสมุด,เป็นต้น

  • โต๊ะทำงานแบบ 1 ขา Single Column เป็นของใหม่ที่หลายคนยังไม่คุ้นเคย สำหรับใช้งาน 1-2 คน ประหยัดพื้นที่ในห้อง นิยมใช้ตามคอนโด,ร้านกาแฟ,ร้านหนังสือทั่วไป