fbpx

เรื่องที่ควรรู้ และ วิธีการดูแลก่อนตัดสินใจซื้อรถเข็นวีลแชร์ไฟฟ้า

เรื่องที่ควรรู้ และ วิธีการดูแลก่อนตัดสินใจซื้อรถเข็นวีลแชร์ไฟฟ้า

การเข้าสู่วัยผู้สูงอายุจะมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกายที่เสื่อมถอยลง ส่งผลให้มีความบกพร่องในด้านต่างๆ เช่น การทรงตัว ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูกลดลง ซึ่งอาจทำให้มีการจำกัดหรือมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุขณะการทำกิจกรรมต่างๆ หรือแม้กระทั่งการเคลื่อนไหวร่างกาย อาทิเช่น การลุกขึ้นนั่ง การยืน การเดิน หรือการขึ้นลงบันได ดังนั้นจึงมีอุปกรณ์เสริมขึ้นมา เพื่อช่วยลดโอกาสในการเกิดเหตุไม่คาดฝันและลดการจำกัดการทำกิจวัตรประจำวันหรือกิจกรรมต่างๆ ทำให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีมากยิ่งขึ้น

เรื่องที่ควรรู้ก่อนการตัดสินใจซื้อวีลแชร์ไฟฟ้า

สำหรับผู้ป่วย ผู้สูงอายุ และ ผู้พิการนั้นปฏิเสธไม่ได้เลยว่าวีลแชร์แทบจะเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญอย่างมากเนื่องจาก ผู้คนเหล่านี้ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากนักการได้วีลแชร์จึงช่วยพวกเขาได้หลายอย่าง เพราะไม่เพียงแต่ช่วยให้เขาเหล่านั้นพึงพาตัวเองได้แล้ว ยังช่วยผ่อนแรงของผู้ดูแล ให้สามารถดูแลได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันวีลแชร์ไฟฟ้านั้นมีราคาที่สามารถเอื้อมถึงได้มากขึ้นอีกทั้งยังสร้างความสะดวกสบายได้อย่างมาก ดังนั้นในวันนี้เราจะมาบอกถึงสิ่งที่ต้องรู้ก่อนการตัดสินใจซื้อวีลแชร์ไฟฟ้าสักคันหนึ่งกัน

วีลแชร์ไฟฟ้ามีแบบไหนบ้าง

โดยทั่วไปแล้ววีลแชร์ไฟฟ้านั้นแบ่งออกด้วยกัน 2 แบบใหญ่ ๆ ซึ่งแต่ละแบบนั้นเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกันซึ่งผู้ใช้งานอาจจะต้องดูถึงวัตถุประสงค์ของการใช้งานด้วย

  • วีลแชร์ไฟฟ้าล้อใหญ่
    วีลแชร์ประเภทนี้จะเป็นประเภทที่สะดวกสบายต่อผู้นั่งมากที่สุดเนื่องจากสามารถเลือกการทำงานได้ถึง 3 ระบบ ผู้ช่วยเข็น และ ผู้ใช้งานใช้มือหมุนล้อเองได้ ดังนั้นแบบนี้จึงเป็นแบบที่มีความหลากหลายสูงสุดนั้นเอง

  • วีลแชร์ไฟฟ้ารุ่นน้ำหนักเบา
    วีลแชร์ไฟฟ้าแบบนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการนำไปพกพาไปข้างนอกบ่อยขึ้นรถ ขึ้นเครื่องบิน เนื่องจากเป็นรถวีลแชร์ไฟฟ้าที่มีน้ำหนักเบาสุดอยู่ที่ 13.5 กก. พับเก็บโดยไม่ต้องถอดอุปกรณ์ จึงเหมาะแก่การพกพา เคลื่อนย้ายไปใช้งานนอกสถานที่ต่างๆ หรือ ต่างประเทศได้ดี

โดยปกติแล้วคนไทยนิยมมองหารถเข็นวีลแชร์ไฟฟ้าที่มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา เพื่อพกพาได้ง่ายและสามารถยกขึ้นใส่ท้ายรถได้อย่างสะดวกสบาย จะเห็นได้ว่าคนดูแลผู้สูงอายุ ก็เริ่มมีอายุมากขึ้นเช่นกัน ดังนั้นรถเข็นวีลแชร์ไฟฟ้าที่มีน้ำหนักเยอะมากจนเกินไป ก็อาจจะทำให้ไม่เหมาะสำหรับการพกพาเดินทางออกข้างนอก แต่รถเข็นไฟฟ้าที่น้ำหนักเบาก็มีข้อเสียเช่นกัน โดยปกติแล้วน้ำหนักรถเข็นวีลแชร์ไฟฟ้าขึ้นอยู่กับขนาดมอเตอร์และกำลังของมอเตอร์ด้วย ยิ่งรถเข็นไฟฟ้ามีขนาดน้ำหนักเบามากๆ มอเตอร์ที่ใช้ก็เล็กมากเช่นกัน มอเตอร์ที่มีขนาดเล็ก กำลังมอเตอร์ก็จะน้อย จึงทำให้รถเข็นวีลแชร์ไฟฟ้ามีน้ำหนักเบา

*มอเตอร์เล็ก หรือเรียกว่า กำลังมอเตอร์น้อย มีผลในการขับเคลื่อนขึ้นทางลาดชัน เปรียบเสมือนกำลังเครื่องยนต์ของรถยนต์ หรือง่ายๆ ว่าแรงม้านั่นเอง ถ้าหากรถเข็นไฟฟ้าที่เราเลือกใช้มีกำลังมอเตอร์น้อย แต่คนใช้งานมีน้ำหนักเยอะ ทำให้เวลาขับขึ้นทางลาดชันที่ชันมาก จะทำให้ไม่มีแรงส่งหรือไม่มีแรงนั่นเอง มองภาพง่ายๆ ว่าเหมือนการขับรถยนต์เครื่อง 1200 ขึ้นภูเขาสูงชัน ถ้าถามว่าสามารถขึ้นได้มั้ย ก็ขึ้นได้เช่นกัน แต่ก็ต้องใช้ความชำนาญในการขับเคลื่อนด้วย แต่ถ้าจะให้ปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุ แนะนำรุ่นรถเข็นไฟฟ้า ที่มีกำลังมอเตอร์ข้างละ 250W จะปลอดภัยกว่า*

วีลแชร์ไฟฟ้าที่ผู้สูงอายุสามารถบังคับได้เอง แต่วีลแชร์พวกนี้นั้นมีสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลย คือการดูแล และใส่ใจวีลแชร์ของเรา ไม่ว่าจะเป็นวีลแชร์แบบประเภททั่วไป หรือวีลแชร์แบบไฟฟ้า เพราะวีลแชร์ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญ ที่ไปกับเราทุกๆที่ เรียกว่าไปไหนไปกัน ดังนั้นในวันนี้เราจะมาบอกถึงข้อควรระวังฝนการใช้วีลแชร์ทั้วไป และ วีลแชร์ไฟฟ้ากันเพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุในการใช้งานที่อาจจะเกิดขึ้นได้นั้นเอง

รถเข็นวีลแชร์ไฟฟ้าน้ำหนักเบา กำลังมอเตอร์แรง สามารถเดินทางขึ้นเครื่องบินได้

ข้อควรระวังในการใช้วีลแชร์ไฟฟ้า

  1. 1.สนิมบนรถ
    สนิมเป็นสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในวีลแชร์ที่ไม่ได้ทำจากวัสดุกันสนิมอีกทั้งหากเกิดสนิทที่ข้อต่อ น๊อตหรือส่วนที่เป็นล้ออาจจะทำให้ล้อสะดุดได้ ดังนั้นหากวีลแชร์เปียก หรือ โดนน้ำขึ้นมา ให้เราเช็ดให้แห้งทุกครั้งหลังวีลแชร์โดนน้ำ และ ควรใช้น้ำมันอเนกประสงค์เพื่อป้องกันการขึ้นสนิมที่อาจจะเกิดขึ้นได้
  2. เชื้อราบนเบาะ
    หากใช้วีลแชร์ไปนานๆอาจจะมีการอับชื้นได้เนื่องจากเหงื่อ ของผู้นั่ง หรือ อาจจะโดนน้ำที่เกิดจากการใช้งานควรทำความสะอาดเบาะรถ และ ผึ่งลมให้แห้ง หลีกเลี่ยงอากาศอับชื้น สาเหตุของการเกิดเชื้อรา และ แบคทีเรีย
  3. ระวังเรื่องอุบัติเหตุ
    เนื่องด้วยอุปกรณ์ไม่ว่าจะวีลแชร์ทั่วไป หรือ วีลแชร์ไฟฟ้านั้นย่อมมีความเสื่อมเมื่อใช้งานไปได้สักระยะอาจจะต้องคอยตรวจสอบเพื่อป้องกันการลื่นไถล และ การเกิดอุบัติเหตุที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้งาน และ รถเข็นวีลแชร์ ควรเช็คสภาพรถ ยางรถ และ เบรคทุกๆปี
  4. ระวังเรื่องแบตเตอรี่
    หากเป็นวีลแชร์ทั่วไปนั้นอาจจะไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่แต่สำหรับ วีลแชร์ไฟฟ้านั้นแบตเตอรี่คือส่วนสำคัญของวีลแชร์ไฟฟ้า หากเกิดความเสียหาย นอกจากทำให้ชิ้นส่วนอื่นๆ ภายในรถทำงานหนัก และเกิดความเสียหายแล้ว ยังทำให้รถวิ่งได้ช้าลง หรือ หนักสุดอาจไม่สามารถใช้งานได้อีก จึงควรหมั่นตรวจสอบคุณภาพของแบตเตอรี่ และ หลีกเลี่ยงน้ำไม่ให้โดนแบตเตอรี่นั้นเอง
  5. ระวังกระแสไฟฟ้ารัดวงจร
    นี้เป็นข้อควรระวังอีกเช่นกันสำหรับวีลแชร์ไฟฟ้าเนื่องจากวีลแชร์ไฟฟ้ามีอุปกรณ์อีเล็กโทรนิคหลายอย่างโดยเฉพาะบริเวณ Joystick หรือ แผงควบคุม ควรหลีกเลี่ยงการโดนฝน หรือ น้ำ หรือ หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรใช้เคสป้องกันฝนสำหรับวีลแชร์ไฟฟ้า เพราะหากเกิดไฟฟ้ารัดวงจร อาจทำให้วีลแชร์ไฟฟ้าหยุดทำงานในทันที และ อาจทำให้อุปกรณ์ส่วนอื่นเกิดเสียหายไปด้วยนั้นเอง
  6. เปลี่ยนยางอย่างสม่ำเสมอ
    ยางเป็นชิ้นส่วนเดียวที่สัมผัสกับพื้นดังนั้นควรให้ความใส่ใจมากที่สุด ไม่ว่าจะกับ วีลแชร์ทั่วไป และ วีลแชร์ไฟฟ้า ควรเปลี่ยนยางล้ออย่างสม่ำเสมอ ตรวจสอบล้อว่าขณะใช้งานมีอาการโยกแก่วง หรือ ยางบวม หรือ ไม่ หากพบอาการให้เปลี่ยนทันทีเพราะอาจเกิดอันตรายกับผู้ใช้งานได้
  7. จัดท่านั่งให้ถูกต้อง
    การนั่งวีลแชร์ทั่วไป และ วีลแชร์ไฟฟ้าใช้ท่านั่งเดียวกันเมื่อนั่งบนรถเข็นวีลแชร์ ให้ตรวจดูว่าที่วางเท้าอยู่ในระดับที่เหมาะสม และแน่นหนา ต้นขาควรวางแนบกับที่นั่งพอดี ในขณะที่เท้าก็วางได้เต็มฝ่าเท้า และควรสูงจากพื้นดินประมาณ 2นิ้ว-4นิ้ว (วัดจากพื้นดินถึงใด้แผ่นวางเท้า)
  8. ห้ามถอดล้อกันหงาย
    ล้อกันหงายเป็นอุปกรณ์เซฟตี้สำหรับ วีลแชร์ทั้งแบบทั่วไป และ วีลแชร์ไฟฟ้าเนื่องจากหากเกิดหงายหลัง ยังสามารถค้ำยึดไม่ให้รถหงายไปด้วย ดังนั้นในระหว่างใช้งาน ห้ามถอดล้อกันหงายออก ยกเว้นการซ่อมแซม หรือ การเปลี่ยนอะไหล่
รถเข็นวีลแชร์ไฟฟ้า มอบรอยยิ้มเพื่อคนที่คุณรัก

ทั้งนี้อุปกรณ์ดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยอาจแตกต่างกันตามความต้องการและความเหมาะสม ผู้ดูแลจึงต้องมีความเอาใจใส่ในการดูแลให้มากเป็นพิเศษ เนื่องจากผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ต้องได้รับการช่วยเหลือจากผู้ดูแลในการฟื้นฟูสมรรถภาพต่างๆ ดังนั้นอุปกรณ์ดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยจึงเป็นตัวช่วยสำคัญในการดูแล ทั้งนี้ทั้งนั้นเราควรเลือกอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับความจำเป็นในการใช้งานมากที่สุด และนอกจากมีอุปกรณ์ตัวช่วยที่ดีแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ การดูแลเอาใจใส่อย่างถูกวิธี โดยเฉพาะทางด้านสุขอนามัยและสุขภาพจิต เพื่อให้ผู้สูงอายุและผู้ป่วยมีความสบายกายสบายใจในการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข หากผู้สูงอายุและผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นก็ช่วยลดภาระของผู้ดูแลได้และยังช่วยลดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีกด้วย


รถเข็นไฟฟ้ารุ่นยอดนิยม