fbpx

เตรียมรับมือกับลูกที่เปลี่ยนช่วงวัย

เตรียมรับมือกับลูกที่เปลี่ยนช่วงวัย

ช่วงปิดเทอมแบบนี้คุณพ่อคุณแม่หลายๆท่านอาจจะได้อยู่กับบุตรหลานของท่านเยอะขึ้นใช่มั้ยคะ  แล้วได้สังเกตุบุตรหลานแต่ละท่านบ้างมั้ยคะว่าน้องๆเริ่มเติบโตขึ้นทุกวัน บ้างอย่างที่คุณพ่อคุณแม่เคยทำแล้วมันดีตอนนั้นตอนนี้อาจจะเริ่มเปลี่ยนไปแล้วก็ได้นะคะ พอรู้อย่างนี้แล้วช่วงที่กำลังจะฝึกนิสัยได้ก็ต้องรีบฝึกเพราะไม้อ่อนยังดัดง่ายอย่ารอให้โตไปกว่านี้เลยค่ะ จะได้ไม่เป็นปัญหาในอนาคตซึ่งการเสริมสร้างวินัยให้ลูก เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถสร้างให้กับพวกเขาได้ตั้งแต่ที่บ้าน โดยเริ่มต้นตั้งแต่เรื่องของวินัยพื้นฐานต่าง ๆ เช่น การตรงต่อเวลา ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดเวลาตื่นนอน กำหนดเวลากินอาหาร ไปจนถึงเวลาเข้านอน หรือแม้แต่หน้าที่ภายในบ้าน เช่น การให้ลูกเก็บจานข้าวไปล้างด้วยตัวเองทุกครั้ง รวมไปถึงการจัดเก็บสิ่งของที่ตัวเองนำออกมาเล่นหรือใช้งานกลับเข้าที่เดิมอย่างเป็นระเบียบ ซึ่งแต่ละช่วงวัยก็จพะมีการพัฒนาศักยภาพต่างกันออกไปและวันนี้แอดจะมาแชร์ข้อมูล ” เตรียมรับมือกับลูกที่เปลี่ยนช่วงวัย ”

เด็กวัยเตาะแตะ 

ช่วงอายุ 1-3 ขวบเป็นช่วงอายุที่เด็กเริ่มเป็นตัวของตัวเอง ไม่ชอบให้ใครมาบังคับ ดังนั้นจะถือได้ว่าเป็นวัยที่ต้องอยู่ในสายตาค่ะ เพราะนอกจากจะไวแล้วก็สุดแสนจะซนแล้วยังเป็นช่วงที่สามารถรับพัฒนาการต่างๆได้ดี ดังนั้นช่วงอายุนี่เป็นช่วงที่ควรเริ่มฝึกระเบียบและขอบเขตต่างๆของน้อง ของเล่นของใช้ที่ควรเลือกซื้อคือต้องได้หลายอย่าง เช่น กระเป๋าเดินทาง KIDSIT  เป็นทั้งกระเป๋าเดินทาง เป็นทั้งรถเข็นเด็กและเป็นทั้งของเล่นเด็กไปในตัว ซึ่งตัวกระเป๋าเองมีฟังชั่นแยกชิ้นส้วนให้เป็นรถเข็นอเนกประสงค์สำหรับน้องๆอีกด้วย โดยเจ้าตัวรถเข็นเองสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 50 กิโลกรัม และยังสามารถพับเก็บได้อย่างง่ายและขนาดเล็กอีกด้วย ด้านบ้านสามารถห้อยของเล่นเสริมสร้างพัฒนาการได้อีกด้วยนะคะ ครบคันจริงๆ

เด็กก่อนวัยเรียน 

ในวัย 3-5 ปี เด็กจะสามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดีขึ้นเล็กน้อยแต่วันนี้เสี่ยงมากๆสำหลับการเป็นเด็กสามาธิสั้น เพราะน้องอยู่ในวัยกำลังเรียนรู้ดังนั้น เราเองจะต้องหากิจกรรมที่เปลี่ยนไปจากเดิม หากิจกรรมที่มีทักษะทางด้านส่งเสริมให้น้องรักการอ่านวาดภาพระบายสีเองเป็นหนึ่งกิจกรรมที่เราเองจะได้มีเวลาว่างทำอย่างอื่นได้ด้วย แต่จะให้มานั่งผิดหลักธรรมชาตอแล้วละก็จะส่งผลต่อกระดูกและจะมีปัญหาในอนาคตได้นะคะอย่าชะล่าใจไปเชียว และอีกกิจกรรมที่เด็กวัยนี้จะชอบเป็นพิเศษคือการได้ออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน เช่น ออกไปเที่ยวตามต่างจังหวัด ออกไปเที่ยวสวนสัตว์ แต่กิจกรรมพวกนี้จะลำบากเราหน่อยเพระาวันนี้จะวิ่งซนแบบเต็มที่ถ้าได้รถเข็นพกพาง่ายสักคันก็จะเป็นเรื่องที่ดี

เด็กวัยเรียน

เด็กในวัย 5-12 ปีเป็นช่วงสำคัญของเด็กในการเรียนรู้ทักษะชีวิต เราควรหากิจกรรมให้เด็กได้ปลดปล่อยพลังงานด้านจิตนาการและวิชาการได้ดีเช่นเดียวกันค่ะ แต่วัยจะเริ่มตีตัวออกห่างจากพ่อแม่แล้วนะคะทำใจไว้นิดนึงก่อน แต่ถ้าไม่อยากให้ช่วงวัยทำให้ความสัมพันธุ์ในครอบครัวเปลี่ยน เราเองก็ควรจะเรียนรู้เรื่องเทคโนโลยีใหม่ๆเปิดในให้กับกิจกรรมที่เด้กวัยนี้อยากทำ หรือเรียกได้ว่าปล่อยให้เป็นอิสระแต่ไม่ได้ปล่อยจนเกินไปนะคะ ต้องคอยสังเกตุและซัพพอตในส่วนที่ลูกเริ่มสนใจ เช่น กีฬาประเภทใดที่ลูกชอบและลูกได้ออกกำลังกายทุกวัน นอกจากนี้เด็กจะสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่นและให้ความสำคัญต่อกลุ่มทางสังคม ควรส่งเสริมให้เด็กเรียนรู้ทักษะการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง เด็กจะเริ่มเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่นและรู้สึกภูมิใจเมื่อทำสิ่งใดสำเร็จ สำหรับพัฒนาการทางด้านสมอง เด็กวัยนี้สามารถคิด วิเคราะห์ และแก้ปัญหาตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น คุณพ่อคุณแม่อาจปล่อยให้ลูกได้ตัดสินใจเองบ้าง เพื่อให้เด็กรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเอง

 

เด็กวัยรุ่น 

เด็กวัยรุ่นหรือวัย 12-18 ปี ต้องบอกว่าเด็กวัยนี้จะเปรียบเสมือนลุกน้องที่โตแล้วพร้อมที่จะกางปีกบินแล้ว วัยยนี้แหละค่ะที่น้องๆจะเปลี่ยนจนพ่อแม่หลายคนบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าควบคุมได้ยากที่สุด เพราะ เด็กจะมีความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและอารมณ์อย่างมาก โดยเฉพาะในวัยรุ่นตอนต้นที่ร่างกายเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและการควบคุมอารมณ์ยังไม่ค่อยดีนัก ในวัยนี้เด็กจะเริ่มมีลักษณะเพศเปลี่ยนแปลง เช่นเด็กผู้หญิงมีสะโพกขยายและทรวงอกขยายออก บางคนเริ่มมีประจำเดือน ซึ่งทำให้เด็กรู้สึกวิตกกังวลกับภาพลักษณ์ตัวเอง ควรสังเกตความเปลี่ยนแปลงของลูกและพูดคุยเพื่อให้เด็กเข้าใจถึงธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงและรู้สึกคลายความกังวล แต่จะดีขึ้นเมื่อเป็นวัยรุ่นตอนกลางหรือข่วงวัย 14-16 ปี เมื่อถึงวัยรุ่นตอนปลายเด็กจะมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายช้าลง เด็กจะมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง มีความคิดเห็นเป็นของตนเองและพยายามหาบทบาทของตัวเองในครอบครัวและในสังคม ซค่งจริงๆแล้ววัยนี้ก็ควรมีโตปรับระดับไว้ใช้ได้แล้วนะคะเพราะ 1 ต้องใช้เวลาในการทำการบ้านหรืออยู่หน้าโต๊ะบ่อยทำให้อาจเป็นออฟฟิตซินโดมได้ในอนาคต

ดังนั้นการสร้างวินัยให้เด็ก ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ และครอบครัวส่งผลต่อพฤติกรรมของเด็กเป็นอย่างมาก และ ยังช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางด้านความคิดและอารมณ์ ซึ่งจะส่งผลติดตัวมาจนถึงตอนโตอีกด้วย ในช่วงขวบปีแรกๆของชีวิตเด็กเป็นช่วงเวลาที่สำคัญต่อพัฒนาการทางสมองของเด็กมากที่สุด การดูแลเด็กอย่างเหมาะสมจะทำให้เด็กเติบโตอย่างมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี มีความรับผิดชอบและประสบความสำเร็จในชีวิต อย่างไรก็ตามในทุกช่วงเวลาของชีวิตเด็ก เด็กต้องการความรัก ความอบอุ่น การตอบสนอง ความเข้าใจและคำแนะนำจากคนใกล้ชิด โดยเฉพาะจากคุณพ่อคุณแม่นะคะ อะไรที่ช่วยเบาแรงและเสริมสร้างพัฒนาการได้ก็ต้องมีต้องซัพพอตทั้งลูกและตัวเรานะคะ

ต้องขอขอบคุณข้อมูลจาก : เรียบเรียงโดย ศูนย์กุมารเวช โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์