เครื่องช่วยหายใจ ( Ventilator) และเครื่องผลิตออกซิเจน ( Oxygen Concentrator) ฟังดูแล้ว ทั้งสองเครื่องนี้อาจจะดูคล้ายกัน แต่ทุกท่านทราบมั้ยคะว่า ประโยชน์ และการใช้งานของทั้งสองเครื่องนั้น มีความแตกต่างกันอยู่ ในวันนี้ เรามาทำความรู้จักกับทั้งสองเครื่อง เพื่อการใช้งานที่เหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุดกันนะคะ
เครื่องช่วยหายใจ (Ventilator) เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อการช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับทางเดินหายใจ หายใจลำบาก หรือไม่สามารถหายใจด้วยตัวเองได้ ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยหายใจได้สะดวก และรับออกซิเจนได้ในปริมาณที่มากขึ้น โดยการทำงานของเครื่องช่วยหายใจ จะเป็นการเพิ่มแรงดันอากาศเข้าสู่ปอด และส่งอากาศเข้าไปทางท่อช่วยหายใจ ซึ่งจะใช้ในช่วงเวลาไม่นาน เมื่อผู้ป่วยสามารถหายใจด้วยตัวเองได้ ก็สามารถหยุดใช้ได้ ซึ่งเครื่องหายใจ มี 4 ประเภท และแต่ละประเภท จะใช้งานคนละรูปแบบ ตัวอย่างเช่น
1 เครื่องช่วยหายใจ CPAP หรือเครื่องช่วยหายใจแบบแรง (Continuous Positive Airway Pressure)
คือเครื่องช่วยหายใจแบบแรงดันบวกต่อเนื่อง ซึ่งจะทำงานแบบเพิ่มแรงดันอากาศตลอด เป็นเครื่องช่วยหายใจที่มีประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการนอนกรน และผู้ที่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ ได้รับความนิยมสูง เพราะใช้งานง่ายและยังเคลื่อนย้ายได้อย่างสะดวกสบายอีกด้วย
2 เครื่องช่วยหายใจ Bi-PAP หรือ เครื่องช่วยหายใจแบบแรงดันสองระดับ
(Bi-level Positive Airway Pressure)
เครื่องช่วยหายใจประเภทนี้ เป็นเครื่องที่จะทำงานเพื่อช่วยทำให้การหายใจเป็นปกติขึ้น สามารถใช้งานร่วมกับเครื่องผลิตออกซิเจนได้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจที่ผิดปกติ อาทิเช่น ผู้ที่มีปัญหาการนอนกรนรุนแรง หรือผู้ที่มีภาวะก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์คั่งในเลือด ผู้ป่วยถุงลมโป่งพอง รวมไปถึงผู้ที่มีความผิดปกติทางปอด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ผู้ป่วยที่ต้องเจาะคอก็สามารถใช้ได้เช่นกัน
3 เครื่องช่วยหายใจแบบควบคุมปริมาตร (Volume Controlled Ventilator)
เครื่องปะเภทนี้ จะเป็นเครื่องช่วยหายใจขนาดใหญ่ ซึ่งจะสามารถแสดงกราฟการหายใจต่างๆ และสามารถควบคุมได้ทั้งปริมาตรและแรงดันอากาศ มีระบบการทำงานที่ซับซ้อนกว่าสองประเภทข้างต้น มักใช้ในโรงพยาบาล เหมาะที่จะใช้กับผู้ที่มีปัญหากับระบบหายใจขั้นรุนแรง ผู้ป่วยที่ใช้ท่อเจาะคอ หรือผู้ที่ไม่สามารถหายใจด้วยตัวเองได้
4 เครื่องช่วยหายใจความถี่สูง (High Frequency Ventilator)
เครื่องช่วยหายใจประเภทนี้ คือเครื่องที่จะสูบฉีดออกซิเจนได้ในปริมาณสูงๆ เพื่อปรับระดับออกซิเจนในร่างกายให้เหมาะสม มักใช้ในผู้ป่วยที่มีภาวะหายใจลำบาก ไม่สามารถหายด้วยตัวเองได้ ซึ่งเกิดจากปอดทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งเครื่องนี้ จะช่วยให้ปอดส่งออกและรับออกซิเจนได้ในปริมาณที่เหมาะสมกับร่างกายนั่นเอง
ในส่วนของเครื่องผลิตออกซิเจนนั้น เครื่องผลิตออกซิเจนจะทำงานต่างจากเครื่องช่วยหายใจ เพราะเครื่องช่วยหายใจ จะเป็นการเพิ่มแรงดันอากาศ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มอากาศหรือออกซิเจนเข้าไปสู่ปอดโดยตรง แต่เครื่องผลิตออกซิเจนนั้นจะทำหน้าที่เพิ่มออกซิเจนในร่างกายแทน สำหรับผู้ป่วยที่ปอด ไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ ไม่สามารถฟอกอากาศได้ ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ หรือออกซิเจนในเลือดต่ำ เป็นเครื่องมือทางการแพทย์ที่สำคัญ แต่หากผู้ป่วย ไม่สามารถหายใจด้วยตัวเองได้ รวมถึงปอดก็ไม่สามารถฟอกออกซิเจนได้ จะทำให้ไม่สามารถนำอากาศและออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายได้ จึงจำเป็นต้องใช้เครื่องทั้งสองนี้ควบคู่กับในบางกรณี
แม้จะทำงานไม่เหมือนกัน แต่เครื่องมือทางการแพทย์ทั้งสองตัวนี้ ก็มีบทบาทในการช่วยเหลือผู้ป่วยที่ไม่ต่างกันเลยเห็นมั้ยคะ จะเครื่องมือแบบไหน ทำหน้าที่อะไร เพียงเลือกใช้อย่างเหมาะสมและถูกต้องสุดท้ายก็ใช้เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย ไม่ว่าจะเครื่องไหนๆก็สำคัญไม่แพ้กันเลยค่ะ