fbpx

New Normal สำหรับเด็กปฐมวัย…ยุคใหม่ในปี 2022!

New Normal สำหรับเด็กปฐมวัย…ยุคใหม่ในปี 2022!

จากสถานการณ์โควิด-19 ใน 2ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน มีผลกระทบทั้งเศรษฐกิจ สังคมประชาชนทุกช่วงวัยรวมทั้งเด็กๆก็เช่นกัน ดังนั้นทำให้รูปแบบการใช้ชีวิตของเด็กๆก็ต้องเปลี่ยนไปด้วย ทั้งการเว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing)  การทำงานจากที่บ้าน (work from home) การเรียนรู้ที่บ้าน (learn from home หรือ home based learning)  ในสถานการณ์เช่นนี้จึงมีแนวคิดความปกติใหม่ (new normal) เกิดขึ้นในการดำเนินชีวิตประจำวันของทุกคน แต่อย่างไรก็ตามเด็กปฐมวัยยังต้องมีการเรียนรู้ พัฒนา และเติบโตอย่างต่อเนื่อง “ความปกติใหม่สำหรับเด็กปฐมวัยจากสถานการณ์โควิด-19” นั้น เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงสำหรับการเผชิญสถานการณ์อย่างเหมาะสม และทำให้เด็กสามารถเกิดการเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่องในสถานการณ์ โควิด-19 โดยมีประเด็นที่สำคัญดังนี้

การจัดสภาพแวดล้อม

  • จากสถานการณ์ตอนนี้ต้องเว้นระยะห่างทางสังคม เด็กๆไม่สามารถไปโรงเรียนได้เป็นปกติ…คุณพ่อคุณแม่ต้องคุ้นเคย “การเรียนออนไลน์” อยู่ที่บ้านกันเป็นอย่างดี และอย่างที่ทราบกันแล้วว่าบ้านไม่ได้เป็นแค่บ้านธรรมดาอีกต่อไปเพราะต้องเป็นทั้งโรงเรียน ห้องเรียน แม้กระทั้งสนามเด็กเล่น ซึ่งขี้นอยู่กับผู้ปกครองเป็นคนออกแบบสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมและปลอดภัย

การรักษาสุขอนามัยและสุขภาวะ

  • เด็กๆอยู่ในช่วงวัยที่กำลังเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ต้องการการดูแลและแนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้องโดยเฉพาะสถานการณ์แบบนี้ควรฝึกฝนให้พวกเขา “ล้างมือบ่อยๆ” ทุกๆ 1ชั่วโมง หรือเมื่อเวลาที่ต้องใช้สถานที่หรือสิ่งต่างๆ ร่วมกับผู้อื่น สอนให้สวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกต้อง
  • แนะนำไม่ให้ใช้ภาชนะของใช้ส่วนตัวเช่น แก้วน้ำ จาน ช้อน-ส้อม หลอดดูดน้ำ หนังสือ ตุ๊กตา ร่วมกับผู้อื่น
  • เมื่อต้องอยู่บ้านเป็นหลัก ผู้ปกครองควรให้ความใส่ใจต่อความรู้สึก อารมณ์ จิตใจและสุขภาพของพวกเขา ดูแลอย่างใกล้ชิดมากที่สุดคอยรับฟังปัญหาหรือให้คำแนะนำต่างๆอย่างใจเย็น และเลือกให้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หมั่นพาเด็กออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

การเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะตามสรีระเพื่อสุขภาพระยะยาว

  • เป็นช่วงวัยที่มีการเจริญเติบโตของร่างกายส่วนต่างๆยังไม่เต็มที่ไม่ว่าจะเป็นสรีระของศีรษะ ความสามารถในการมองเห็น ดังนั้นผู้ปกครองควรเอาใจใส่สุขภาพเป็นหลักเป็นการปลูกฝังที่ดีมีผลในระยะยาวโดยอาศัยการเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัยตามหลัก Ergonomic เช่นเดียวกับผู้ใหญ่
  • เลือกโต๊ะ-เก้าอี้ที่สามารถปรับระดับสูง-ต่ำให้เหมาะกับความสูงได้ การปรับได้แบบนี้จะช่วยให้เด็กๆนั่งได้ถูกหลักและสบายมากขึ้น ที่สำคัญยังช่วยให้เปลี่ยนอริยบทจากการนั่งเป็นยืนง่ายขึ้นเป็นการฝึกการใช้กล้ามเนื้อไปในตัว
  • โต๊ะเขียนหนังสือควรสามารถปรับเอียงได้อย่างน้อย 30องศา เพื่อให้หนังสือ แท็บเล็ตอยู่ในระดับสายตามากที่สุด ไม่ให้เด็กก้มศีรษะมากเกินไป

การมีส่วนร่วมและบทบาทของพ่อแม่

  • ผู้ปกครองตอนนี้ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นพ่อแม่อย่างเดียวแต่ต้องเป็นคุณครูและเพื่อนให้กับเด็กๆ โดยเน้นการทำกิจกรรมที่สัมพันธ์กับวิถีชีวิตในครอบครัวและมีความสมดุลย์ ให้เด็กมีโอกาสช่วยทำงานบ้าน การออกกำลังกาย การพักผ่อน การเล่นอิสระ การเล่านิทานรวมทั้งกิจกรรมเพื่อพัฒนาทักษะทางภาษา โดยเฉพาะการฟังและการพูดที่นำไปสู่การพัฒนาการอ่านและการเขียน รวมทั้งการทำกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักสูตรของสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญคือการจัดตารางกิจวัตรประจำวัน และกิจกรรมประจำวันที่มีความสม่ำเสมอสำหรับเด็กที่บ้าน

การใช้เทคโนโลยี/สื่อออนไลน์

  • ตอนนี้เทคโนโลยี/สื่อออนไลน์กลายเป็นตัวกลางสำคัญในการเรียนรู้ แต่สำหรับเด็กเล็กการอยู่หน้าจอเป็นเวลานานๆไม่เหมาะสมเลย ยิ่งในเด็กๆที่อายุ 3ขวบขึ้นไป ไม่ควรใช้คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต สมาร์ทโฟนเกิน 15นาที/1ครั้งการใช้งานและไม่ควรเกิน 1ชั่วโมง/วัน ในการใช้สื่อควรมีจุดมุ่งหมายและอยู่ความควบคุมของผู้ปกครอง ควรมีการกำหนดข้อตกลงในการใช้ร่วมกันกับเด็กจะได้ปฏิบัติได้อย่างเหมาะสม สำหรับเทคโนโลยีที่เลือกใช้สามารถใช้ในการติดต่อสื่อสารกับผู้ปกครอง การประชุมออนไลน์ การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ออนไลน์ที่ส่งต่อกิจกรรมให้ผู้ปกครองทำร่วมกับเด็ก การให้เด็กได้พบได้พูดคุยกับเพื่อนและครู การเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็ก และการจัดชั้นเรียนออนไลน์


อ้างอิงจาก : https://www.starfishlabz.com/blog/207-new-norma