fbpx

6 กิจกรรมวัยเกษียณ ต้องลอง!! 2023

6 กิจกรรมวัยเกษียณ ต้องลอง!! 2023

หลายคนเมื่อถึงวัยเกษียณแล้ว คงอยากใช้เวลาไปกับการหยุดพักผ่อนจากการทำงานหนักมาตลอดชีวิต แต่เชื่อว่าคงมีผู้สูงอายุจำนวนไม่น้อย ที่แม้จะเกษียณแล้ว ก็ไม่อยากหยุดทำงาน ยังมีไฟที่จะออกไปทำสิ่งที่ตัวเองรัก เพื่อชีวิตจะได้ไม่เงียบเหงา แถมยังเป็นการหารายได้ แบ่งเบาภาระของลูกหลานอีกทาง ซึ่งยังมีงานอีกหลายอย่างที่เหมาะกับผู้สูงอายุ โดยเฉพาะงานที่ได้เป็นนายตัวเอง สามารถยืดหยุ่นเวลาได้ ไม่มีกฎระเบียบที่ตายตัว แถมยังได้อยู่บ้าน และยังช่วยแก้เหงาได้อีกด้วย เมื่อถึงจุดๆนึงของชีวิตที่เรียกว่าช่วงเวลา “เกษียณ” ในมุมมองของเราเมื่อถึงเวลาเกษียณคงเป็นวัยที่เข้าในโลกมากที่สุด และคงจะเป็นคนที่คอยให้คำปรึกษาลูกหลาน หัวใจแข็งแรง แต่รู้หรือไม่ว่าต่การเข้าสู่วัยเกษียณอาจจะไม่ได้สวยงามแบบที่เราคิด ผู้สูงอายุต้องเผชิญกับการเสื่อมโทรมลงของร่างกาย หลายครั้งการเสื่อมโทรมทางกายภาพส่งผลไปถึงสภาพจิตใจที่ทรุดโทรมลงด้วย มีรายงานว่าผู้สูงอายุกว่า 70% ที่มีความเจ็บป่วยเช่นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดในสมอง โรคพาร์กินสัน การเผชิญกับความเจ็บป่วยสำคัญๆ มักนำไปสู่อาการซึมเศร้าได้ ยิ่งในผู้สูงอายุมักพบว่าคุณภาพในการนอนหลับนั้นลดลงจนเกิดภาวะนอนไม่หลับก็ย่อมกระทบกับคุณภาพชีวิตโดยตรง และยิ่งทุกวันนี้โลกขับเคลื่อนด้วยการทำงาน การเข้าสู่วัยเกษียณนอกจากจะเป็นการสิ้นสุดชีวิตการทำงานอันยาวนานแล้ว ภาวะเกษียณมักนำไปสู่ความโดดเดี่ยว ความว่างของชีวิตบั้นปลาย ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาเกี่ยวกับการมีตัวตนดังนั้นวันนี้อิดมิน จึงมี 10 กิจกรรมที่น่าชวนผู้ที่เกษียณออกไปทำกัน

1.ปลูกผักสวนครัว

การปลูกผักผักิจกรรมง่ายๆแต่ฮิลใจสุดๆ

กิจกรรมยอดฮิตสำหรับผู้สูงอายุ เพราะเมื่อยิ่งแก่ตัวในสังคมทุนนิยมเป็นสังคมที่เรารู้สึกว่าต้องผลิตอะไรบางอย่าง เรารู้สึกว่าเรามีค่าเพราะเราได้สร้าง (productive) ความน่ากลัวของการเข้าสู่วัยเกษียณคือการที่เราไม่ได้ผลิตอะไรอีกต่อไปแล้ว ซึ่งวัยนี้มักจะเริ่มตั้งคำถามว่า ความหมายของชีวิตเรามันคืออะไร การทำสวนจึงเป็นกิจกรรมลำดับต้นๆ ที่มีประโยชน์กับผู้สูงอายุ แน่นอนว่าการทำสวนโดยทั่วไปทำให้เราได้กลับไปอยู่กับธรรมชาติ ได้อยู่ท่ามกลางแสงแดด การขุดพรวนดินนอกจากจะดีกับความรู้สึกแล้วยังได้ใช้กล้ามเนื้อ ในหลายประเทศจึงส่งเสริมการทำสวนให้กับผู้สูงอายุโดยเฉพาะการทำสวนครัว การได้กลับมาปลูกพืชผัก ได้ผลิตอาหารสำหรับตัวเองอีกครั้งก็ดูเป็นการทำให้ผู้สูงอายุกลับมา productive ได้อีกครั้ง

2.ออกไปท่องเที่ยว

lite1 รถเข็นไฟฟ้าน้ำหนักเบาตัวช่วยสำหรับการเดินทาง

จริงๆแล้วผู้ใหญ่หลายต่อหลายต่อหลายท่านอยากออกไปท่องเที่ยวกลับคนกลุ่มอื่น แต่ด้วยความคิดที่ว่าร่างกายไม่ไหวแล้วหากถ้าสังเกตุผู้ใหญ่ในบ้านชอบดูรายการท่องเที่ยวอยู่ๆบ่อยๆ ท่านอาจจะกระซิบเป็นในๆว่าพาฉันไปเที่ยวบ้างก็ได้นะคะ อย่าสมัยนี้มีตัวช่วยทุ่นแรงอย่า รถเข็นไฟฟ้า หรือ จะเป็นรถเข็นแมนนวล ซึ่งเป็นตัวช่วงสำหรับคนดูแลแถมยังสะดวกสบายต่อคนใช้งานอีกด้วย

3.การทำอาหารร่วมกัน

ลงครัวทำอาหารเองเพิ่มเพิ่มการอายากอาหาร

เป็นหนึ่งกิจกรรมที่น่ารักมากเลยค่ะ ด้วยวัยนี้เรื่องของการอยากอาหารจะมีน้อยกว่ารุ่นๆอื่นๆหรือเบื่ออาหารและหนึ่งในภาพหดหู่ใจของการอยู่คนเดียวคือการที่ต้องทำอาหารและนั่งทานข้าวเพียงลำพัง เมื่อการกินไม่มีความสุข ก็เป็นไปได้ว่าคนแก่ที่อยู่เพียงลำพังจะมีแนวโน้มหดหู่และไม่ได้รับอาหารที่มีคุณภาพ การสร้างพื้นที่การทำอาหารส่วนกลาง เช่น การมีพื้นที่ศูนย์อาหารและมีครัวส่วนรวมที่ผู้สูงอายุสามารถไปทำหรือรับประทานอาหารร่วมกับคนอื่นๆ ได้จึงเป็นการสร้างพื้นที่และกิจกรรมแบบใหม่เพื่อแก้ไขและช่วยลดปัญหาการกินข้าวเดียวดายลงได้ สำหรับบ้านเราเอง เราก็คุ้นเคยกับการไปเยี่ยมคุณย่าคุณยาย และหนึ่งในกิจกรรมสุขสันต์คือการที่คุณยายทำอาหารให้เรากินโดยที่บางครั้งเราก็เข้าไปช่วยอยู่ในครัวบ้าง เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาคุณภาพภายในครอบครัว

4.การเล่นวีดีโอเกม

นอกจากเล่นเกมแบบอนนไลฟน์แล้วบอดเกมออฟไลน์ผู้สูงอายุจะเข้าใจได้ดีกว่า

เรื่องนี้จริงๆ ก็ไม่ใหม่เท่าไหร่ และคนที่อายุเยอะก็ใช่ว่าจะต้องหนีจากเทคโนโลยี จากนวัตกรรมสมัยใหม่ เทคโนโลยีเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญเพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีในผู้สูงอายุ อย่างน้อยที่สุด การเชื่อมต่อกันในโลกออนไลน์ การแชตกับเพื่อน สไกป์กับครอบครัวก็ทำให้ผู้สูงอายุเหงาน้อยลง ยิ่งไปกว่านั้นการเล่นวิดีโอเกมก็ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ดีต่อผู้สูงอายุ มีงานศึกษาจาก Université de Montréal ในปี ค.ศ. 2017 พบว่าการเล่นเกมที่เป็นเกม 3 มิติ ช่วยพัฒนาการรับรู้ (cognitive functions) และช่วยเพิ่มสมองเนื้อสีเทา (grey matter) บริเวณสมองฮิปโปแคมปัส

5.การเดินออกกำลังกาย

รถเข็นช่วยเดิน EW-21 ตัวช่วยในการออกำลังกาย

 

ถือเป็นกิจกรรมช่วยลดความเครียดได้ดีเลยทีเดียว และเป็นหนึ่งกิจกรรมคลาสสิกเหมาะกับทุกเพศทุกวัย (WHO) บอกว่าการที่ผู้สูงอายุออกกำลังกายนั้นช่วยเพิ่มทักษะในการทรงตัว ป้องกันการล้ม เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ การออกกำลังง่ายๆ เช่นการเดิน ถือเป็นกิจกรรมที่ไม่ต้องลงทุนอะไร มีงานศึกษาในปี ค.ศ. 2018 พบความสัมพันธ์ระหว่างผู้สูงอายุกับการออกกำลังกาย เช่น การเดิน มีความสัมพันธ์กับภาวะซึมเศร้า นอกจากนี้ ผู้สูงอายุที่อยู่ในเมืองที่สามารถเดินได้สะดวก สามารถเดินไปไหนมาไหนในชีวิตประจำวันได้ ซึ่งเป็นการออกกำลังกายไปในตัว มีแนวโน้มจะมีภาวะซึมเศร้าต่ำกว่า

6.ใช้เวลากับรุ่นอื่น

การใช้เวลาอยู่ร่วมกับผู้อื่น

เรามักเห็นภาพการแยกผู้สูอายุออกจากสังคม ออกจากคนรุ่นอื่นๆ ดูแล้วก็จะเศร้าๆ หน่อย แนวคิดสำคัญที่จะช่วยให้ผู้สูงอายุมีความสุขหลังวัยเกษียณคือการมีปฏิสัมพันธ์กับคนรุ่นอื่นๆ โดยเฉพาะเด็กๆ เพื่อย้ำว่าการแก่ตัวลงไม่ได้หมายความว่าหายไปจากสังคมนี้ ปัจจุบันหลายประเทศเริ่มมีการใช้แนวคิด non-familial intergenerational interactions คือการเปิดพื้นที่และเปิดโอกาสให้คนวัยเกษียณเข้ามามีปฏิสัมพันธ์กับเด็กๆ เช่น ให้ผู้สูงอายุเข้ามามีส่วนร่วมในเนอร์สเซอรี่ ใช้เวลาว่างในการทำกิจกรรมกับเด็กๆ ในตอนกลางวัน ไปอ่านนิทาน กินข้าว เล่นกับเด็กๆ ในประเทศอย่างออสเตรเลียและอังกฤษพบว่ากิจกรรมข้ามรุ่นดังกล่าวเป็นการให้คุณค่าซึ่งส่งผลดีกับผู้สูงอายุ

นี่ถือเป็นการอัพเดทกิจกรรมบางกิจกรรมก็ไม่ได้ใหม่แล้วแต่หลายๆกิจกรรมก็น่าสนใจไม่น้อย ถ้าเราเข้าใจผู้สูงอายุได้แม้จะเกษียณจากการทำงานมาอยู่บ้านแล้ว ก็ใช่ว่าชีวิตจะต้องน่าเบื่อเสมอไป การได้นำงานอดิเรกที่ชอบมาทำจนก่อเกิดรายได้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่ดีในการเพิ่มคุณภาพในการดำเนินชีวิต ได้ทำในสิ่งที่ชอบ ลดโอกาสเกิดโรค แถมยังไม่เหงา และยังช่วยให้หารายได้ด้วยตัวเอง เป็นการสร้างความภูมิใจในตัวเองอีกด้วย