OSA vs หลับใหลไม่ตื่น ?? ต่างกันอย่างไร

OSA vs หลับใหลไม่ตื่น ?? ต่างกันอย่างไร

อาการ “นอนไหลจนเสียชีวิต” ที่คนไทยเรียกกัน ส่วนใหญ่สอดคล้องกับกลุ่มอาการ เสียชีวิตเฉียบพลันขณะหลับ (Sudden Unexpected Nocturnal Death) ซึ่งมักเกิดในคนอายุน้อย–วัยทำงานที่ดูสุขภาพปกติดีมาก่อน หัวใจหยุดเต้นกะทันหันขณะหลับ โดยที่ก่อนหน้าอาจ “ไม่เคยมีสัญญาณเตือนชัดเจน” ทำให้หลายคนเสียชีวิตในช่วงนอนหลับลึก โดยไม่รู้ตัว

ไหลตาย (Sudden Nocturnal Death)
เป็นภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรงขณะหลับ ทำให้หัวใจหยุดเต้นแบบเฉียบพลันโดยไม่มีสัญญาณเตือน เป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตแบบกะทันหันในคนอายุน้อย โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีภาวะ Brugada หรือโรคหัวใจแฝงที่ไม่เคยตรวจพบมาก่อน

OSA – ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
เป็นภาวะที่ทางเดินหายใจปิดขณะหลับ ทำให้หยุดหายใจเป็นช่วง ๆ กรนดัง สะดุ้งเฮือก และนอนไม่หลับลึก ส่งผลเสียระยะยาวต่อสุขภาพหัวใจ ความดัน และอารมณ์

หลตาย (ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะเฉียบพลัน)

อาการ

  • ใจสั่นเป็นพัก ๆ
  • เจ็บหน้าอกแปล๊บสั้น ๆ
  • หน้ามืด เป็นลมง่าย
  • เหนื่อยผิดปกติ (บางรายไม่มีอาการเลย)

ผลลัพธ์

  • หยุดหายใจเฉียบพลันเพราะ “หัวใจหยุดเต้น”
  • มักเกิดในช่วงหลับลึก
  • ไม่รู้สึกตัว ไม่ดิ้น ไม่สะดุ้ง
  • เสียชีวิตภายในไม่กี่นาที
  • จุดเด่น: เกิดแบบเงียบมาก และเฉียบพลันมาก

OSA (หยุดหายใจขณะหลับ)

อาการ

  • กรนดัง
  • หายใจติดขัด ฮึดฮัด
  • สะดุ้งเฮือกเหมือนสำลักลม
  • ภรรยา/คนข้างเตียงสังเกตเห็นว่าหยุดหายใจเป็นช่วง ๆ
  • นอนแล้วไม่สดชื่น

ผลลัพธ์

  • ง่วงมากกลางวัน
  • ปวดหัวตอนเช้า
  • ความดันสูง
  • หัวใจเต้นผิดจังหวะ
  • เสี่ยงหัวใจวายหรือเส้นเลือดสมองตีบในอนาคต
  • จุดเด่น: เกิดทุกคืน สะดุ้งเฮือก หายใจติดขัดชัดเจน ไม่ได้ตายทันที

OSA เป็นปัจจัยที่ “สำคัญมาก” และมีความเป็นไปได้สูงที่จะเชื่อมกับกรณีไหลตายในคนอายุน้อย แม้ไม่มีโรคเรื้อรังอื่น ๆ เกิดภาวะเนื้อเยื่อตายเฉียบพลันได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีสัญญาณแผลกดทับชัดเจน — เพราะกลไกเกิดจาก ขาดออกซิเจนและเลือดไปเลี้ยงเนื้อเยื่อไม่เพียงพอ

  • หัวใจเต้นผิดจังหวะ
  • ออกซิเจนต่ำ
  • เลือดไปเลี้ยงอวัยวะไม่พอ
  • เกิดลิ่มเลือด
  • เนื้อเยื่อตายในอวัยวะสำคัญ
  • สามารถทำให้เสียชีวิตฉับพลันระหว่างนอนได้ แม้อายุแค่ 25–40 ปี