Full Review Cpap Resmed Airsense11 AutoSet

• Cpap Resmed AirSense 11 Autoset สามารถปรับได้ 3 โหมดที่แตกต่างกันออกไป นั่นก็คือ : AutoSet , CPAP และ Autoset For Her 
• ตัวเครื่องพัฒนาหน้าจอสัมผัสที่ใช้งานง่ายทำให้ AirSense 11 ใช้งานได้ง่าย และทันสมัยมากขึ้น
• ดีไซน์เรียบหรู สีสันตัวเครื่องมีความทันสมัย น่าใช้งาน เหมาะที่จะวางไว้ข้างเตียง ใช้งานได้อย่างสบายใจ 
• ปุ่มกดเริ่มทำงานแบบเรียบง่าย ช่วยให้เปิดและปิดเครื่องได้อย่างง่ายดายด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว 
• สามารถใช้งาน Resmed myAir (แอปฟลิเคชั่น) ซึ่งเป็นโปรแกรมออนไลน์บนมือถือ โดยข้อมูลจะถูกบันทึกและอัพโหลดขึ้นระบบ Clound เพื่อแสดงในแอปพลิเคชั่น และเพื่อแจ้งให้คุณทราบว่าผลการนอนหลับหลังจากการใช้เครื่อง Cpap แล้ว มีประสิทธิภาพการรักษาเป็นอย่างไร ในแอปพลิเคชั่น MyAir นอกจากนั้นจะมีบันทึกเป็นข้อมูล สามารถเรียกดูข้อมูลการนอนย้อนหลังได้อีกด้วย 
• ผู้ช่วยนักบำบัดส่วนตัว (Authorize) ตัวแทนจำหน่าย Resmed ในประเทศไทย จะสามารถดูข้อมูลการนอนของคนไข้ ผ่าน Airview จะมีการแนะนำคุณตลอดการตั้งค่าอุปกรณ์ ช่วยคุณแก้ไขปัญหาทั่วไป รวมไปถึงการช่วยดูผลการรักษา และวิเคราะห์ผลการนอนเบื้องต้นให้กับผู้ใช้งานได้อีกด้วย 
• Care Check-In มอบคำแนะนำและความช่วยเหลือที่ปรับให้เหมาะกับความต้องการส่วนบุคคลของคุณ เป็นระบบสำรวจความคิดเห็นของผู้ป่วยที่ออกแบบมาเพื่อรับฟังความคิดเห็นของผู้ที่อยู่ในช่วงการทดลองใช้งานเครื่อง Cpap จาก Resmed โดยจะสอบถามความรู้สึกของผู้ป่วยเป็นประจำในช่วงเดือนแรกของการใช้งานเครื่อง และมอบการสนับสนุนที่ตรงกับสถานการณ์ของผู้ป่วย ข้อมูลที่ผู้ป่วยตอบในแอป (หากผู้ป่วยตกลงที่จะแบ่งปันข้อมูลกับผู้ให้บริการด้านสุขภาพ จะถูกส่งต่อไปยังระบบ AirView ของผู้ให้บริการ เพื่อให้แพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพสามารถเข้าถึงและติดตามอาการของผู้ป่วยได้
• ความสามารถในการอัปเกรดผ่านระบบไร้สายทำให้คุณมีโอกาสรับการบำรุงรักษาและการอัปเดตคุณสมบัติ โดยตรง
• เครื่องเพิ่มความชื้นแบบรวม ความร้อน สามารถควบคุมได้ด้วยตนเองหรืออัตโนมัติด้วยคุณสมบัติควบคุมสภาพอากาศ
• คุณสมบัติ AutoRamp™ มอบแรงดันลมต่ำเพื่อช่วยให้คุณหลับ จากนั้นจึงค่อยๆ เพิ่มแรงดันลมขึ้นจนถึงระดับที่คุณกำหนด
• การระบายความดันขณะหายใจออก (EPR™) ช่วยรักษาความดันการไหลเวียนของอากาศให้สม่ำเสมอในขณะที่คุณหายใจเข้า และลดความดันเพื่อให้หายใจออกได้ง่ายขึ้น
• การตรวจจับเหตุการณ์ขั้นสูง จะระบุภาวะหยุดหายใจขณะหลับจาก Central Apnea การกระตุ้นที่เกี่ยวข้องกับความพยายามในการหายใจ และเหตุการณ์การหายใจแบบ Cheyne-Stokes เพื่อให้แพทย์ผู้รักษาได้รับข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าเกี่ยวกับสุขภาพอย่างต่อเนื่อง 

  • การหายใจแบบ RERAย่อมาจาก Respiratory Effort-Related Arousal เป็นภาวะที่ผู้ป่วยมีความพยายามในการหายใจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนาน 10 วินาทีหรือมากกว่า แต่ไม่ถึงเกณฑ์ของภาวะหยุดหายใจ (Apnea) หรือภาวะหายใจไม่อิ่ม (Hypopnea) และนำไปสู่การตื่นตื่ว (Arousal) จากการนอนหลับ ภาวะนี้เกิดจากการที่ทางเดินหายใจส่วนบนถูกจำกัดหรืออุดกั้นบางส่วน ส่งผลให้ต้องออกแรงหายใจมากขึ้น ทำให้การนอนหลับไม่ต่อเนื่องและง่วงนอนในเวลากลางวัน.

    ลักษณะสำคัญของ RERA
    • ความพยายามในการหายใจเพิ่มขึ้น:

      เกิดจากการที่ทางเดินหายใจแคบลง ทำให้ต้องใช้แรงหายใจมากขึ้น.
    • ระยะเวลา:

      เหตุการณ์ RERA ต้องนานอย่างน้อย 10 วินาที.
    • ผลลัพธ์:

      นำไปสู่การตื่นตัว (arousal) จากการนอนหลับ ซึ่งส่งผลให้การนอนหลับไม่มีคุณภาพ.
    • ไม่เข้าเกณฑ์หยุดหายใจ/หายใจไม่อิ่ม:

      ภาวะ RERA ไม่ใช่การหยุดหายใจ (apnea) หรือการหายใจลดลงจนเข้าเกณฑ์ภาวะหายใจไม่อิ่ม (hypopnea) ที่มีผลต่อระดับออกซิเจนในเลือด.
    สาเหตุและผลกระทบ
    • สาเหตุ:

      มักเกี่ยวข้องกับภาวะหยุดหายใจขณะหลับแบบอุดกั้น (Obstructive Sleep Apnea, OSA) ซึ่งเกิดจากการอุดกั้นของทางเดินหายใจส่วนบน.
    • ผลกระทบ:

      การที่ RERA เกิดขึ้นซ้ำๆ อาจทำให้การนอนหลับไม่ต่อเนื่อง และส่งผลให้มีอาการง่วงนอนมากผิดปกติในตอนกลางวัน.

 ประสิทธิภาพของอุปกรณ์

• ระดับเสียง:  AirSense 11 AutoSet มีระดับความดังเสียงอยู่ที่ 27 เดซิเบล  เครื่อง CPAP ทั่วไป  จะดังเพียง 30 เดซิเบล ดังนั้นจึงถือว่าเงียบกว่ารุ่นอื่นๆ
• ใช้งานง่าย:  การใช้งานอุปกรณ์  ค่อนข้างตรงไปตรงมา ตัวเครื่องมีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายพร้อมจอแสดงผล LED ที่ชัดเจน ซอฟต์แวร์ในตัวจะแนะนำผู้ใช้มือใหม่ตลอดขั้นตอนการตั้งค่า ช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหา และให้คำแนะนำและคำแนะนำต่างๆ คุณสามารถดาวน์โหลดแอป myAir เพื่อขอความช่วยเหลือเพิ่มเติม
• ความสะดวกในการพกพา:  เครื่องนี้พกพาสะดวกด้วยดีไซน์น้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัด อีกหนึ่งข้อดีสำหรับนักเดินทางคืออุปกรณ์นี้ได้รับการรับรองมาตรฐาน FAA สำหรับการใช้งานบนเครื่องบิน เพื่อความสะดวกในการจัดเก็บ ควรถอดถังเก็บความชื้นออกก่อนบรรจุลงกล่อง
• การตั้งค่าแรงดัน:  ไม่ว่าคุณจะตั้งค่าเครื่องโดยเป็น CPAP หรือ APAP ไว้ ช่วงแรงดันน้ำเริ่มต้นจะอยู่ที่ 4 ถึง 20 เซนติเมตร (cmH2O) ส่วนใหญ่ แพทย์จะเป็นผู้กำหนดระดับแรงดันหรือช่วงแรงดันที่เหมาะสมที่สุดกับร่างกายของแต่ละบุคคล แนะนำว่าควรปรึกษาแพทย์หากการตั้งค่าแรงดันปัจจุบันของคุณไม่มีประสิทธิภาพ 
• การควบคุมอุณหภูมิอากาศ:  ท่อ ClimateLineAir สามารถตั้งอุณหภูมิได้สูงถึง 30 องศา อุณหภูมิควรคงที่ ไม่ว่าห้องนอนของคุณจะร้อนหรือเย็นแค่ไหน คนไข้หลายคนพบว่าอากาศแห้งและเย็นอาจ ทำให้ทางเดินหายใจ  และไซนัสระคายเคืองได้ (โรคภูมิแพ้อากาศ) ท่อปรับอุณหภูมิ จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าอากาศที่มีแรงดันจะหายใจได้สบายและอาการระคายเคืองน้อยลง
• การควบคุมความชื้น:  อุปกรณ์นี้มีเครื่องทำความชื้นแบบอุ่นในตัวที่ช่วยเพิ่มความชื้นให้กับอากาศที่มีแรงดัน นอกจากนี้ ท่อ ClimateLineAir ยังปรับความชื้นโดยอัตโนมัติตามระดับความชื้นในห้องนอนของคุณ ซึ่งช่วยป้องกันการควบแน่นที่ด้านนอกท่อ
• ความเข้ากันร่วมกับแบรนด์อื่นๆได้:  AirSense 11 AutoSet สามารถใช้งานร่วมกับหน้ากากรุ่น Nasal , Fullface , Pillow ของ ResMed  และคุณอาจใช้ Airsense11 Autoset นี้ร่วมกับ  หน้ากาก CPAP  ของแบรนด์อื่นได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับเพื่อยืนยันก่อน
• การดูแลรักษา:  ResMed แนะนำให้ทำความสะอาดถังเก็บความชื้นทุกวัน และทำความสะอาดสายยางทุกสัปดาห์ด้วยน้ำอุ่นและสบู่อ่อนๆ นอกจากนี้ คุณควรทำความสะอาดหน้ากาก ซิลิโคน (Cussion) และสายรัดอยู่เป็นประจำ แนะนำให้นำแทงค์เก็บความชื้นในสารละลายที่ผสมน้ำและน้ำส้มสายชูขาวในปริมาณที่เท่ากัน เป็นเวลา 15-20 นาทีต่อสัปดาห์ แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นหลังจากนั้น หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของโอโซนหรืออัลตราไวโอเลตเนื่องจาก อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ