หลายคนเริ่มใช้เครื่อง CPAP (Continuous Positive Airway Pressure) เพื่อรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) แต่กลับพบว่า ยังง่วง อ่อนเพลีย ไม่สดชื่นในตอนเช้า ทำให้เกิดคำถามว่าเครื่อง CPAP ใช้ไม่ได้ผลหรือไม่ ความจริงแล้ว อาการง่วงหลังใช้ CPAP สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ และส่วนใหญ่สามารถแก้ไขได้

@elifegear ทำไมใช้ CPAP แล้วยังง่วงนอนอยู่ ?? #elife #cpap #sleeptest #นอนกรน #osa ♬ Mozart Minuet with violin(815356) – 松本一策

ใช้ CPAP แล้ว ยังง่วงนอน เกิดจากอะไรได้บ้าง?

• ใช้ CPAP ไม่ครบเวลาที่ควร การใช้ CPAP อย่างมีประสิทธิภาพควรใช้ อย่างน้อย 4–6 ชั่วโมงต่อคืน และใช้ทุกคืนอย่างสม่ำเสมอ  คิดเป็น70% ของการใช้งาน หรือ 5 วันต่อสัปดาห์ หากใส่เฉพาะช่วงต้นคืน หรือถอดออกกลางดึก สมองและร่างกายจะยังไม่ได้รับการฟื้นฟูเต็มที่ ทำให้ง่วงในตอนกลางวัน
• ค่าแรงดันลม (Pressure) ไม่เหมาะสม แรงดันต่ำเกินไป → ทางเดินหายใจยังยุบ / แรงดันสูงเกินไป → นอนหลับไม่ลึก รู้สึกอึดอัด
• หน้ากากรั่ว หรือไม่พอดีกับใบหน้า หน้ากากที่รั่วทำให้แรงดันลมไม่คงที่ และร่างกายตื่นตัวบ่อยโดยไม่รู้ตัว ส่งผลให้คุณภาพการนอนลดลง แม้จะหลับครบชั่วโมงก็ตาม
• อยู่ในช่วงปรับตัวของร่างกาย ผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับมานาน ร่างกายจะสะสมภาวะขาดออกซิเจน การใช้ CPAP ช่วงแรกอาจยังไม่รู้สึกสดชื่นทันที โดยทั่วไปอาจใช้เวลา 2–6 สัปดาห์ เพื่อให้สมองและร่างกายฟื้นตัว
• มีโรคหรือปัจจัยอื่นร่วม อาการง่วงอาจไม่ได้มาจาก OSA เพียงอย่างเดียว เช่น ภูมิแพ้จมูก ไซนัส ภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล ภาวะโลหิตจาง หรือไทรอยด์ผิดปกติ
• ยาบางชนิดที่ทำให้ง่วง ยานอนหลับ ยาจิตเวชหรือยาที่เกี่ยวกับระบบประสาท

การใช้ CPAP แล้ว ยังง่วงนอน ไม่ได้หมายความว่าเครื่องไม่ดีหรือรักษาไม่ได้ผล แต่ส่วนใหญ่มักเกิดจากการใช้งานที่ยังไม่เหมาะสม หรือมีปัจจัยอื่นร่วม หากปรับการใช้งานให้ถูกต้อง ตรวจเช็กค่าแรงดัน และดูแลคุณภาพการนอนควบคู่กัน จะช่วยให้การนอนหลับดีขึ้น ตื่นมาสดชื่น และลดอาการง่วงระหว่างวันได้อย่างชัดเจน หากคุณใช้ CPAP มาระยะหนึ่งแล้วยังรู้สึกง่วง ควรเข้ารับการตรวจเช็กเครื่องและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้การรักษาได้ผลดีที่สุดในระยะยาว