เปรียบเทียบ CPAP Resmed 3 รุ่น Airstart 10/Airsense10/Airsense11 รุ่นไหนใช่สำหรับคุณ

เปรียบเทียบ CPAP Resmed 3 รุ่น Airstart 10/Airsense10/Airsense11 รุ่นไหนใช่สำหรับคุณ

จะเลือกใช้ CPAP ดี ๆ สักเครื่อง ตอนนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักเครื่อง CPAP จากแบรนด์ระดับโลกอย่าง Resmed แน่นอน ซึ่งตอนนี้ในไทยได้ก็กำลังเป็นนิยมมาก ๆ ในหมู่ User CPAP ไม่ว่าจะเป็นรุ่น Airstart10, Airsense10 AutoSet และตัวล่าสุดอย่าง Airsense11 AutoSet วันนี้ elife มาสรุปข้อมูลจุดเด่นของแต่ละรุ่นเพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจเลือกซื้อกันค่ะ


Hardware ลักษณะภายนอก ความสะดวกในการพกพา ของแต่ละ 3 รุ่น

รายการ

Airstart10

Airsense10 AutoSet

Airsense11 AutoSet

Size ขนาด (กว้าง x ยาว x สูง) 116 x 225 x 150 mm 116 x 225 x 150 mm 140 x 259 x 109 mm
Weight น้ำหนัก 1.24 kg (พร้อม Humidifier) 1.25 kg (พร้อม Humidifier) 1.0 kg
วัสดุและดีไซน์ Material & Design พลาสติกแข็ง สีดำเงา เรียบง่าย พลาสติกสีดำ-เงิน ดูพรีเมียมขึ้น สีดำ-เงิน เพิ่มความโค้งมน ทันสมัยและ Minimal
หน้าจอ Screen LCD ขาว-ดำ ปุ่มหมุนเดียว LCD ขาว-ดำ,ปุ่มหมุน + ปุ่มกด หน้าจอสัมผัส Touch Screen สี
ปุ่มควบคุม Control Button ปุ่มหมุนเดียว ใช้ง่ายแต่ฟังก์ชันน้อย ปุ่มหมุน + ปุ่มกด ใช้งานสะดวกขึ้น หน้าจอสัมผัส
Himidifier ติดตั้งในตัว ถอดออกได้ ติดตั้งในตัว ถอดออกได้ ติดตั้งในตัว ถอดออกได้
ถังน้ำ Water Chamber ความจุ 380 mL ความจุ 380 mL ความจุ ~ 380 mL (ออกแบบให้ทำความสะอาดง่ายกว่า)
พอร์ตการเชื่อมต่อ SD card slot, Power SD card slot, Power, บางรุ่นมี wireless module SD card slot, Power, Bluetooth/Cellular ในตัว
การพกพา – น้ำหนักเบา
– กระเป๋ามาตรฐาน (แต่ค่อนข้าง basic)
– ไม่มีสายชาร์จ USB / แบตสำรอง
– น้ำหนักใกล้เคียง AirStart
– มี travel bag ที่ดูแข็งแรงกว่า
– มีอุปกรณ์เสริม DC converter สำหรับเดินทาง
– เบาที่สุด
– ดีไซน์กะทัดรัด ขอบมน ใส่ง่ายในกระเป๋า
– ออกแบบมาให้พกพาสะดวกขึ้น
– Travel case ขนาดเล็กกว่า
AirSense 11AutoSet ขนาดเล็กและเบากว่า ดีไซน์โค้งมน ทันสมัย เหมาะสำหรับคนที่ต้องพกเดินทางบ่อยที่สุด

สรุปเปรียบเทียบการพกพา

  • AirStart 10เรียบง่าย ใช้พกพาได้ แต่ดีไซน์ basic และกระเป๋าไม่หรูหรา
  • AirSense 10AutoSetเพิ่มความพรีเมียมขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงขนาด/น้ำหนักใกล้ AirStart
  • AirSense 11AutoSetขนาดเล็กและเบากว่า ดีไซน์โค้งมน ทันสมัย เหมาะสำหรับคนที่ต้องพกเดินทางบ่อยที่สุด

Key Feature ฟีเจอร์เด่นของแต่ละรุ่น

Airstart 10

  • เครื่อง CPAP พื้นฐาน → ใช้ง่าย ไม่ซับซ้อน
  • หน้าจอ LCD ขาวดำ + ปุ่มหมุนเดียว
  • มี Integrated Humidifier (ถอดออกได้)
  • มี Basic Sleep Report (ชั่วโมงใช้งาน, mask seal, leak คร่าว ๆ)
  • บันทึกข้อมูลลง SD Card → ส่งให้แพทย์หรือคลินิกได้
  • ใช้งานง่าย เหมาะกับ ผู้เริ่มต้น หรือผู้ที่ไม่ต้องการฟีเจอร์ขั้นสูง
  • ราคา ประหยัดที่สุด ในกลุ่ม

Airsense10 AutoSet

  • AutoSet (ปรับแรงดันอัตโนมัติ) ตามการหายใจจริงของผู้ใช้
  • EPR (Expiratory Pressure Relief) → ลดแรงดันตอนหายใจออก ทำให้นอนหลับสบาย สมูทมากขึ้น
  • Climate Control + Heated Tube (อุปกรณ์เสริม) → ควบคุมอุณหภูมิและความชื้น ลดปัญหาท่อมีน้ำ (rainout)
  • หน้าจอ LCD ขาวดำ + ปุ่มหมุน + ปุ่มกด ใช้งานง่าย
  • เก็บข้อมูลละเอียดบน SD Card (AHI, leak, pressure, flow ฯลฯ)
  • เชื่อมต่อ myAir ได้ดูรายงานผ่านมือถือได้

Airsense11 AutoSet

  • Touchscreen สี ใช้งานง่าย ทันสมัยมากขึ้น
  • AutoSet + EPR + Climate Control ครบ จบ ฟังก์ชันใช้งาน
  • myAir integration เต็มรูปแบบ → sync ข้อมูลการนอนอัตโนมัติไปยังมือถือ
  • Care Check-In → AI ระบบถามอาการ + coaching ให้คำแนะนำแบบรายวัน
  • Remote Assist → รองรับการตั้งค่าระยะไกลโดยทางคลินิกสามารถแก้ปัญหาหรืออัปเดตการตั้งค่าผ่าน AirView ได้
  • คู่มือ Interactive บนหน้าจอ → สอนใส่ mask, เติมน้ำ, ใช้งานขั้นตอนแรก
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการ ความสะดวกสูงสุด + การติดตามใกล้ชิดกับแพทย์และคลินิก

ตารางสรุปเปรียบเทียบการใช้งานของทั้ง 3 รุ่น

รายการฟีเจอร์ Airstart10 Airsense10 AutoSet Airsense11 AutoSet
Therapy Modes CPAP CPAP/AutoSet CPAP/AutoSet/AutoSet For Her
User Friendly ปุ่มหมุนเดียว เรียบง่าย ปุ่มหมุน+กด เมนูเข้าใจง่าย หน้าจอสัมผัสสี Touch Screen
Sleep Report บนตัวเครื่อง Basic Standard Advance
EPR ลดแรงดันตอนหายใจออก
CSR detection
Climate Control ควบคุมอุณหภูมิและความชื้น มีถ้าใช้ Heated Tubing Advance
SmartStart™/Stop feature
AutoRamp™ with sleep onset detection
My Air แอพพลิเคชั่นมือถือ Advance
Air View Remote Assist (ผ่าน Cellular/wifi module) Advance คลินิกสามารถตั้งค่าระยะไกลได้
Bluetooth® connectivity
OTA: over-the-air software updates*
Care Check-in / Coaching
Personal Therapy Assistant*

สรุป Key Features

  • AirStart 10 → Basic, ประหยัด, ใช้งานง่าย แต่ฟีเจอร์น้อย
  • AirSense 10 AutoSet → ฟีเจอร์ครบ (AutoSet, EPR, Climate control), เชื่อมต่อ myAir ได้ เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป
  • AirSense 11 AutoSet → ทันสมัยที่สุด (Touchscreen, Care Check-In, Remote Assist), พกพาสะดวก, ดูแลง่าย เหมาะกับคนที่อยากได้ฟังก์ชันใช้งานแบบจัดเต็ม ครบ จบ ได้เครื่องเดียว

เปรียบเทียบจุดเด่นในการดึง Report ของแต่ละรุ่น

รุ่น การเก็บข้อมูล การดึง Report รายละเอียดที่ได้
Airstart10
  • เก็บข้อมูลเบื้องต้นลง SD card
  • ต้องดึงจาก SD card โดยใช้โปรแกรม (ResScan)
  • Usage hours จำนวนชั่วโมงการใช้งาน ที่ผู้ใช้ใส่หน้ากากและเครื่องทำงานต่อวัน
  • Mask Seal/Leak การรั่วของหน้ากาก
  • Presure แรงดันที่เครื่องตั้งไว้ หรือที่ใช้จริงระหว่างเครื่องทำงาน
  • Night Summary ข้อมูลสรุปของแต่ละคืน
Airsense10 AutoSet
  • เก็บข้อมูลใน SD card
  • ส่งผ่านเครือข่ายไร้สาย 4G/3G
  • ผู้ใช้ดูเบื้องต้นบนหน้าจอ MyAir app
  • แพทย์/คลินิกดูได้ผ่าน AirView (ออนไลน์)
  • SD Card สามารถส่งรายงานผลให้แพทย์ได้ (ออฟไลน์)
  • AHI (ค่าหยุดหายใจ)
  • Mask Seal/Leak การรั่วของหน้ากาก
  • Usage hours
  • Pressure ค่าแรงดันเฉลี่ยสูงสุด/ต่ำสุด
  • Flow Limitation / Snore ข้อมูลการจำกัดการไหลของลม และเสียงกรน
  • Respiratory Events ข้อมูลเหตุการณ์หยุดหายใจ (Obstructive, Central, Hypopnea)
  • EPR Usageการใช้งาน Expiratory Pressure Relief ว่ามีการลดแรงดันตอนหายใจออกหรือไม่
  • Night Summaryสรุปค่าต่าง ๆ ของแต่ละคืน (Usage hours, AHI, Leak, Pressure, Events)
  • Trend / Long-term Report แสดงกราฟรายวัน/รายสัปดาห์/รายเดือน
Airsense11 AutoSet
  • เก็บข้อมูล SD card
  • ส่ง Cloud อัตโนมัติ
  • ผู้ใช้ดูเองผ่าน MyAir app (มือถือ)
  • แพทย์ดูผ่าน AirView แบบเรียลไทม์
  • Usage Hoursจำนวนชั่วโมงที่ใช้เครื่องจริงต่อคืน / ต่อสัปดาห์ / ต่อเดือน
  • Night Summary (บนเครื่อง)แสดงข้อมูลเมื่อคืน เช่น ชั่วโมงใช้งาน, AHI, Leak, Mask Fit score
  • Mask Seal & Leak Rateการรั่วของหน้ากาก (Leak) ทั้งอัตรารั่วเฉลี่ยและจุดที่รั่วสูงสุด
  • Pressure Data– ค่าแรงดันที่ใช้จริง (Min, Median, Max)
    – Algorithm AutoSet ปรับแรงดันตามความต้องการตลอดคืน
  • AHI,EPR
  • Snore Detectionตรวจจับการกรนและบันทึกความรุนแรง
  • Flow Limitationวัดการจำกัดการไหลของอากาศ (บอกแนวโน้มการอุดตันที่ยังไม่ถึงขั้น Apnea)
  • Trend Reports กราฟและสถิติรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน แสดงผลง่ายกว่า Airsense10 AutoSet


Price เปรียบเทียบความคุ้มค่ากับราคาที่จ่าย

รุ่น ราคาโดยประมาณ Key Feature เหมาะสำหรับ ความคุ้มค่า
Airstart10 ฿27,000 – ฿38,000
  • CPAP พื้นฐาน
  • ไม่มีการเชื่อมต่อออนไลน์
  • ผลรายงานระดับ Basic
  • ผู้เริ่มต้นใช้งาน เครื่องราคาประหยัด เครื่องใช้งานได้และยังคงบำบัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Airsense10 AutoSet ฿49,500 – ฿57,000
  • AutoSet ปรับแรงดันอัตโนมัติ
  • เชื่อมต่อ myAir
  • ผลรายงานการใช้งานค่อนข้างละเอียด
  • สำหรับผู้ที่ต้องการใช้ฟีเจอร์การบำบัดอย่างครบถ้วน ใช้งานระยะยาวได้
Airsense11 AutoSet ฿49,500 – ฿69,000
  • Touchscreen สี
  • เชื่อมต่อ myAir อัตโนมัติ
  • รายงานเหตุการณ์และเทรนด์ Report ระเอียดมาก ๆ
  • ฟังก์ชันอัจฉริยะ ครอบคลุมการใช้งาน
  • น้ำหนักเบา ดีไซน์สวย
  • สำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการเทคโนโลยีสมัยใหม่ ใช้งานง่าย ลงทุนใช้งานระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

User แต่ละรุ่นเหมาะกับผู้ใช้งานแบบไหน ?

ResMed AirStart 10

  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้ CPAP หรือผู้ที่ต้องการเครื่องที่ใช้งานง่าย ราคาประหยัด

คุณสมบัติเด่น:

  • ฟังก์ชันพื้นฐาน ใช้งานง่าย
  • ไม่มีการเชื่อมต่อออนไลน์
  • ไม่มี Report รายงานการนอนที่ละเอียด

ข้อควรพิจารณา:

  • อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการติดตามข้อมูลการนอนอย่างละเอียด
  • ไม่สามารถตั้งค่าระยะไกลได้ Remote Assits
  • ไม่มีฟีเจอร์ปรับแรงดันอัตโนมัติ

 ResMed AirSense 10 AutoSet

  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการฟีเจอร์ครบถ้วน เช่น การปรับแรงดันอัตโนมัติ และการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน myAir เพื่อการติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลการนอนอย่างละเอียด

คุณสมบัติเด่น:

  • AutoSet ปรับแรงดันอัตโนมัติ
  • เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน myAir
  • รายงานการนอนที่ละเอียด
  • ตัวเครื่องแข็งแรง เหมาะกับ ผู้ใช้ระยะยาว ที่อยากได้ความสบายกว่า AirStart

ข้อควรพิจารณา:

  • อาจมีราคาสูงกว่า AirStart 10
  • ต้องการการตั้งค่าที่อาจซับซ้อนกว่า

ResMed AirSense 11 AutoSet

  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เช่น หน้าจอสัมผัสสี และการเชื่อมต่อ myAir อัตโนมัติ เพื่อความสะดวกในการใช้งานและการติดตามข้อมูลการนอน

คุณสมบัติเด่น:

  • หน้าจอสัมผัสสี
  • การเชื่อมต่อ myAir อัตโนมัติ
  • รายงานการนอนที่ละเอียด พร้อมกราฟและเทรนด์
  • ดีไซน์กะทัดรัด เบากว่า AirSense 10

ข้อควรพิจารณา:

  • อาจมีราคาสูงที่สุดในกลุ่ม
  • ฟีเจอร์บางอย่างอาจไม่จำเป็นสำหรับผู้ใช้บางราย