เช็กตัวเอง สัญญาณเตือน…โรคเบาหวาน รู้ก่อนรักษาได้

เช็กตัวเอง สัญญาณเตือน…โรคเบาหวาน รู้ก่อนรักษาได้
@elifegear CGM คือ ??? #elife #cgm #เครื่องตรวจน้ําตาล #เบาหวาน ♬ Cute mischief, scheming (loop) – The Penguin

โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus) เป็นโรคเรื้อรังที่เกิดจากความผิดปกติของการเผาผลาญน้ำตาลในร่างกาย หรือฮอร์โมนที่มีชื่อว่า อินซูลิน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินปกติ ซึ่งถ้าไม่ได้ควบคุมอย่างเหมาะสม จะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงในระยะยาวได้ โรคเบาหวาน นับว่าเป็นโรคที่มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในประเทศไทย ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 นั้น จะมีภาวะดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลิน ทำให้ฮอร์โมนอินซูลินไม่สามารถทำหน้าที่นำน้ำตาลในเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่างเต็มที่จึงส่งผลให้น้ำตาลในเลือดมีระดับที่สูงขึ้น

ถึงแม้เบาหวานประเภทที่ 2 มักจะเจอในคนที่มีน้ำหนักตัวมาก ซึ่งนำไปสู่ภาวะดื้อต่ออินซูลินได้ในที่สุด อย่างไรก็ตามเราสามารถสำรวจตัวเองได้ว่าเรามีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานมากน้อยเพียงใด โดยการตรวจน้ำตาลเป็นประจำ ซึ่งการตรวจน้ำตาลแบบเจาะปลายนิ้วจะทำให้เกิดการเจ็บตัวได้บ่อย เนื่องจากผู้ป่วยหรือผู้ที่มีความเสี่ยง จะต้องมีการตรวจน้ำตาลหลังจากที่รับประทานอาหารเป็นประจำ แต่ปัจจุบันได้มีนวัตกรรมใหม่ที่ชื่อว่า CGM (Continuous Glucose Monitor) หรือ เครื่องตรวจระดับน้ำตาลแบบต่อเนื่อง จะเป็นการเจาะตรวจน้ำตาลที่หน้าท้องหรือหลังแขนเพียงครั้งเดียว แต่สามารถตรวจได้นานถึง 15 วัน และสามารถวัดค่าน้ำตาลได้ทุกๆ 3 นาทีอีกด้วย

ผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน

  • อายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป
  • ผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือมีดัชนีมวลกายมากกว่า 23
  • สัดส่วนของรอบเอวต่อส่วนสูงมากกว่า 0.5
  • มีประวัติคนในครอบครัวญาติสายตรงเป็นโรคเบาหวาน
  • ช่วงตั้งครรภ์มีประวัติเป็นโรคเบาหวาน
  • ผู้ที่มีประวัติเป็นโรคความดันสูง
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวอื่น ๆ เช่น ไขมันในเลือดสูงกว่าปกติ โรคหัวใจ โรคเกี่ยวกับหลอดเลือด

อาการของโรคเบาหวาน

  • ปัสสาวะบ่อยในช่วงกลางคืน มากกว่า 3 ครั้งต่อคืน
  • กระหายน้ำบ่อย
  • รับประทานอาหารมากขึ้นแต่น้ำหนักลดลง
  • ตาพร่ามัว มองเห็นภาพไม่ชัด
  • ชาบริเวณปลายมือและปลายเท้าจากปลายประสาทเสื่อม
  • แผลหายช้า/ติดเชื้อบ่อย

อาการที่อาจเกิดขึ้นในภาวะน้ำตาลสูงมาก (เฉียบพลัน)

  • หายใจลำบาก
  • ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน
  • มีกลิ่นลมหายใจคล้ายผลไม้ (เกิดจากคีโตน)
  • ซึมหรือหมดสติ (ภาวะฉุกเฉิน DKA ในเบาหวานชนิดที่ 1)

อาการจากภาวะแทรกซ้อน (เมื่อไม่ควบคุมระดับน้ำตาล)

ระบบร่างกาย อาการที่อาจเกิดขึ้น
ตา สายตาพร่ามัว จอประสาทตาเสื่อม ตาบอด
ไต ปัสสาวะเป็นฟอง บวมที่หน้า/ขา ไตวาย
เส้นประสาท ชา ปวดแสบที่ปลายมือปลายเท้า (neuropathy)
หัวใจและหลอดเลือด เจ็บหน้าอก หลอดเลือดตีบ ความดันสูง
ผิวหนัง/เท้า แผลหายช้า แผลเน่า ติดเชื้อ อาจถึงขั้นตัดอวัยวะ

ประเภทของโรคเบาหวาน

เบาหวานชนิดที่ 1 (Type 1 Diabetes)

  • ร่างกายไม่สามารถผลิตอินซูลินได้เลย
  • มักพบในเด็กหรือวัยรุ่น
  • ต้องฉีดอินซูลินตลอดชีวิต

เบาหวานชนิดที่ 2 (Type 2 Diabetes)

  • ร่างกายผลิตอินซูลินไม่เพียงพอหรือดื้อต่ออินซูลิน
  • พบบ่อยในผู้ใหญ่ โดยเฉพาะผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือไม่ออกกำลังกาย
  • ควบคุมได้ด้วยการปรับพฤติกรรม อาหาร ยา หรืออินซูลินในบางราย

เบาหวานขณะตั้งครรภ์ (Gestational Diabetes)

  • เกิดขึ้นเฉพาะระหว่างตั้งครรภ์
  • มักหายไปหลังคลอด แต่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อเบาหวานชนิดที่ 2 ในอนาคต

สรุป : “โรคเบาหวาน” ไม่ได้มาแบบปุ๊บปั๊บ แต่จะเริ่มค่อยๆ คืบคลานเข้าหาเราผ่านสิ่งที่เรียกว่า “ภาวะก่อนเบาหวาน” เป็นภาวะที่ร่างกายเริ่มมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ แต่ยังไม่ถึงขั้นที่เรียกว่าเบาหวาน ดังนั้นเราควรที่จะมีการวัดค่าน้ำตาลอยู่เป็นประจำ ตัว CGM หรือ เครื่องตรวจระดับน้ำตาลแบบต่อเนื่อง  จึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์เป็นอย่างมาก