fbpx

ความแตกต่างของมอเตอร์รถเข็นวีลแชร์ไฟฟ้า

ความแตกต่างของมอเตอร์รถเข็นวีลแชร์ไฟฟ้า

มอเตอร์รถเข็นไฟฟ้า DC Brush Motor กับ DC Brushless Motor

เมื่อต้องการมองหารถเข็นวีลแชร์ไฟฟ้าดีๆ สักคัน จะสังเกตุเห็นว่ารถเข็นวีลแชร์ไฟฟ้าแต่ละรุ่นนั้นจะมีความแตกต่างกันทั้งโครงสร้าง น้ำหนักของวีลแชร์ ขนาดล้อ แบตเตอรี่และมอเตอร์ ซึ่งจะมีรถเข็นวีลแขร์ไฟฟ้าบางรุ่นใช้ DC Brush Moter หรือ DC Brushless Motor ?? แล้วสงสัยกันไหมว่า มอเตอร์ทั้ง 2 ชนิดนี้คืออะไร และมีข้อแตกต่างอะไรบ้าง รถเข็นวีลแชร์ไฟฟ้า Elife จึงสรุปความแตกต่างระหว่างมอเตอร์ทั้ง 2 ชนิด มาให้เข้าใจได้ง่าย และต้องเลือกใช้มอเตอร์ชนิดไหน ถึงจะคุ้มค่ามากที่สุด

มอเตอร์คืออะไร ??

มอเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่ทำให้รถเข็นไฟฟ้าสามารถขับเคลื่อนที่ได้ โดยจะขึ้นอยู่กับกำลังและชนิดของมอเตอร์ ซึ่งมอเตอร์ที่ใช้กับรถเข็นไฟฟ้านั้นจะมีอยู่ด้วยกันหลัก 2 ประเภท นั่นก็คือ DC Brush Motor และ DC Brushless Motor ซึ่งแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไปดังนี้

  • DC Brush Motor เป็นมอเตอร์ชนิดที่มีแปรงถ่าน รถเข็นวีลแชร์ไฟฟ้าส่วนใหญ่นิยมใช้มอเตอร์ชนิดนี้ เพราะมีราคาที่ถูกกว่า แต่อายุการใช้งานจะสั้นกว่ามอเตอร์แบบ DC Brushless Motor เพราะมอเตอร์ชนิดนี้เมื่อใช้งานไปสักระยะหนึ่ง แปรงถ่านที่อยู่ด้านในมอเตอร์จะเริ่มสึกหรอ ทำให้รถเข็นไฟฟ้าขับเคลื่อนช้าลง แต่หากแปรงถ่านหมด มอเตอร์จะไม่ทำงาน หรือทำงานผิดปกติ แต่สามารถเปลี่ยนแปรงถ่านใหม่แล้วกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม
  • DC Brushless Motor เป็นมอเตอร์ชนิดที่ไม่มีแปรงถ่าน จึงทำให้มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า ไม่ต้องดูแลรักษามาก และรถเข็นวีลแชร์ไฟฟ้าที่มีมอเตอร์ชนิดนี้ จะส่งกำลังแรงขับเคลื่อนได้ดี อย่างคนใช้งานที่มีน้ำหนักค่อนข้างเยอะ ถ้าหากใช้รุ่นที่มอเตอร์เป็นแบบ DC Brush Motor จะทำให้กำลังการขับเคลื่อนขึ้นทางลาดชันค่อนข้างช้า และกำลังไม่มากพอ แต่ถ้าหากเป็นรถเข็นวีลแชร์ไฟฟ้าที่ใช้มอเตอร์เป็นแบบ DC Brushless Motor ไม่ว่าจะน้ำหนักผู้ใช้งานมากขนาดไหน ก็จะมีแรงส่งสูง สามารถขับขึ้นทางลาดชันได้โดยง่ายเลยค่ะ แต่ข้อเสียของมอเตอร์ชนิดนี้ ก็มีราคาที่สูงด้วย

รถเข็นไฟฟ้าสามารถขับเคลื่อนได้ทุกที่หรือไม่

การขับเคลื่อนของรถเข็นไฟฟ้า นอกจากจะขึ้นอยู่กับชนิดของมอเตอร์แล้ว กำลังของมอเตอร์ก็เป็นอีกสิ่งที่สำคัญที่เป็นปัจจัยในการเลือกซื้อ ยิ่งมีกำลังมอเตอร์สูงมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้รถเข็นวีลแชร์ไฟฟ้านั้นมีแรงส่งมากเช่นกัน สามารถขับเคลื่อนได้ในพื้นผิวเรียบ ขรุขระ ต่างๆ ได้ดีมากยิ่งขึ้น ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว รถเข็นวีลแชร์ไฟฟ้าก็จะมีกำลังมอเตอร์ข้างละ 250 วัตต์ จำนวน 2 ตัว ทำงานแยกอิสระออกจากกัน และเนื่องจากมอเตอร์จะติดตั้งไว้กับล้อข้างซ้ายและขวา ผู้ใช้งานสามารถบังคับรถโดยหมุนรอบตัวเองให้อยู่กับที่ได้ โดยไม่ต้องตีวงเลี้ยวกว้างเพื่อกลับรถ และสามารถงานในพื้นที่ต่างๆได้ดี เช่น ทางราบเรียบ พื้นถนน สนามหญ้า ทางขรุขระ ลูกระนาด หรือขึ้นทางลาดชันได้สูงสุด 35 องศา

DC Brush Motor 

รถเข็นวีลแชร์ไฟฟ้าที่เป็น DC Brush Motor ของเรามีด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่น นั่นก็คือ 

รถเข็นไฟฟ้ารุ่น ECO3 เป็นรถเข็นวีลแชร์ไฟฟ้ารุ่นราคาที่ประหยัดที่สุด และคุณภาพดีไม่แพ้กับรถเข็นไฟฟ้าตัวราคาสูงเลยๆ โดยรถเข็นวีลแชร์ไฟฟ้ารุ่น ECO3 สามารถทำงานได้ 3 ระบบ 1. ใช้งานด้วยระบบไฟฟ้า 2.สามารถหมุนล้อได้ด้วยตัวเอง 3.สามารถให้ผู้อื่นเข็นให้ได้ จะเห็นได้ว่ารถเข็นวีลแชร์ไฟฟ้ารุ่น ECO3 ถือว่าคุ้มค่ามากๆ และยิ่งเทียบกับราคาแล้ว ถือว่าเป็นรุ่นที่ราคาถูก แต่คุณภาพ 100% ค่ะ แต่ข้อเสียของเจ้ารถเข็นวีลแชร์ไฟฟ้ารุ่น ECO3 นั้น มีน้ำหนักค่อนข้างเยอะ เวลาพับเก็บต้องถอดแบตเตอรี่ แต่ถ้าเน้นใช้งานอยู่กับที่ ลุยพื้นที่ขรุขระ ใ้ช้งานตามพื้นที่ต่างจังหวัด ถือว่าใช้งานได้ดีมาก เพราะมีล้อหน้าที่ขนาดใหญ่ถึง 10 นิ้ว และล้อหลังขนาด 24 นิ้ว เป็นล้อยางตันทั้ง 4 ล้อ ไม่ต้องเติมลมยางเลยค่ะ

รถเข็นวีลแชร์ไฟฟ้ารุ่น ECO3 เป็นรุ่นที่ผู้สูงและคนส่วนใหญ่นิยม เพราะราคาถูก สามารถจับต้องได้ และที่สำคัญ Elife การรับประกันรถเข็นวีลแชร์ไฟฟ้า 2 ปี มีทีมงานช่างคอยให้คำแนะนำ และดูแลให้บริการหลังการขาย มีอะไหล่ไว้คอยให้บริการกับลูกค้า ที่ใช้งานรถเข็นวีลแชร์ของเรา ตลอดอายุการใช้งาน 


 

DC Brushless Motor 

สรุปว่าเลือกมอเตอร์ชนิดไหนดีกว่ากัน

จะเห็นได้ว่ามอเตอร์ทั้ง 2 ขนิดมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ซึ่ง DC Brush Motor จะใช้กับรถเข็นวีลแชร์ไฟฟ้าเป็นส่วนใหญ่ เพราะจะมีราคาที่ถูก หรือสามารถเปลี่ยนแปรงถ่านแล้วกลับมาใช้งานได้ (แต่ก็ไม่ดีเหมือนเดิม) ส่วน DC Brushless Motor จะมีราคาค่อนข้างสูงจึงทำให้รถเข็นวีลแชร์ไฟฟ้าที่ใช้มอเตอร์ชนิดนี้ มีราคาที่สูงตามไปด้วย  แต่สำหรับรถเข็นไฟฟ้ารุ่นที่ใช้มอเตอร์ DC Brushless Motor เป็นรุ่นพรีเมี่ยม ที่ขับเคลื่อนแล้วสมูท ไม่กระชาก มีระบบความปลอดภัยสูง และมีน้ำหนักเบา เป็นรุ่นที่เหมาะสำหรับใช้งานพกพาออกข้างนอกได้ มีด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่นคือ

รถเข็นไฟฟ้ารุ่น Lite pro เป็นรถเข็นไฟฟ้าที่มีขนาดเล็ก กระทัดรัด มีน้ำหนักเบาเพียง 16 กก. คนใช้งานหรือผู้ดูแล สามารถพับเก็บยกขึ้นรถได้โดยง่าย เพราะมีน้ำหนักไม่เยอะมากนัก รถเข็นวีลแชร์ไฟฟ้ารุ่น Lite pro สามารถพกพาขึ้นเครื่องบินได้ เนื่องจากแบตเตอรี่ เป็นแบตประเภทลิเธียมไอออน ประเภทของแบตเตอรี่ถูกต้องตามหลักกฎการบินพลเรือน กำลังมอเตอร์ข้างละ 250 วัตต์ จำนวน 2 ข้าง สามารถรับน้ำหนักผู้ใช้งานได้สูงถึง 120 กก. มีความปลอดภัยสูง ที่สำคัญลักษณะจุดเด่นของรถเข็นไฟฟ้า รุ่น Lite pro มีจอยสติ๊ก  2 ตัว
– จอยสติ๊กที่ติดมากับรถเข็นวีลแชร์ไฟฟ้า (ปกติมีมาทุกคัน) 
– จอยสติ๊กไร้สาย (Wireless บังคับโดยผู้ดูแล) เป็นจอยสติ๊กเพิ่มมาอีก 1 ตัว สามารถให้ผู้ดูแลช่วยบังคับให้ได้ บังคับได้สมูทดีพอๆ กับตัวที่ติดมากับรถเข็นไฟฟ้าเลย ปกติโดยทั่วไปจอยสติ๊กไร้สาย หรือจยสติ๊กเสริมที่ผู้อื่นบังคับให้ จะทำได้เพียงเดินหน้ากับถอยหลังเท่านั้น ท้ายที่สุดแล้วเลี้ยวซ้ายกับเลี้ยวขวา คนนั่งต้องเป็นคนบังคับอยู่ดี แต่สำหรับจอยสติ๊กไร้สายของรถเข็นไฟฟ้ารุ่น Lite pro สามารถหมุนได้รอบ 360 องศา หรือพูดได้ว่าทำงานได้ดีเหมือนกับจอยสติ๊กตัวหลักเลยก็ว่าได้


รถเข็นไฟฟ้ารุ่น +  เป็นรถเข็นวีลแชร์ไฟฟ้า ที่ถือว่าเป็นรุ่นพรีเมี่ยมที่คุณภาพดีที่สุดเลยก็ว่าได้ รุ่นนี้เป็นรุ่นที่เบาะกว้าง นั่งสบาย สามารถรับน้ำหนักได้สูงสุด 120 กก. ค่ะ รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ขายดี เพราะด้วยลักษณะของตัวโครงสร้างรถเข็น และคุณภาพของรถเข็น รถเข็นไฟฟ้า วีลแชร์ไฟฟ้า รุ่นPW-301Plus อยู่ในหมวดรถเข็นไฟฟ้าเกรดพรีเมียมที่มีน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับใช้เดินทางทั้งในและนอกประเทศ PW-301Plus ประกอบด้วยโครงสร้างอลูมิเนียมหนา แต่คงความน้ำหนักเบา เคลือบแต่งสี ลักษณะของรถมีดีไซน์ที่ทันสมัย ออกแบบพิเศษมาสำหรับรองรับผู้สูงอายุ ผู้ป่วย ไปจนถึงผู้พิการ ที่มีน้ำหนักช่วงตัวใหญ่สามารถนั่งได้

PW-301Plus รถเข็นไฟฟ้า เบาเพียง 18.5 Kg นั่งสบาย

  • สามารถปรับเป็น Mode ให้คนเข็นได้ มีกระเป๋าสำหรับใส่สัมภาระและอุปกรณ์จำเป็นสำหรับผู้นั่ง ข้อต่อทุกส่วนสามารถพับได้ และสามารถปรับล็อคได้  PW-301Plus สามารถปรับเอนนอนได้ 45 องศา รองรับอุปกรณเสริมหมอนรองคอ
  • Electromagnetic Brake หรือ ระบบเบรกแม่เหล็กไฟฟ้า นี้มีคุณสมบัติเมื่อปล่อยมือออกจากจอยสติ๊กหรือหยุดบังคับรถจะหยุดนิ่งทันทีเพราะการทำงานของระบบเบรกจะมีแม่เหล็กทำงานดูดกันถึงแม้จะมีแรงเสียดทานบนทางลาดชัน ไม่เกิดการดีเลย์ รถไม่ไหลขณะเบรกบนทางชัน (ระบบเบรคแม่เหล็กไฟฟ้าจะทำงานก็ต่อเมื่อรถเข็นเปิดระบบไฟฟ้าอยู่เท่านั้น)
  • แบตเตอรีลิเธียม (ประเภทเดียวกับ Power Bank) 12V 6AH มีน้ำหนักเบา สามารถพกติดตัวขึ้นเครื่องบินได้ PW-301Plus สามารถวิ่งได้ระยะทางไกลสุดถึง 25 กิโลเมตรต่อการชาร์จแบต 1 ครั้ง

ขนาดโครงสร้างรถเข็น

PW-301Plus เป็นรถเข็นไฟฟ้าควบคุมระบบไฟฟ้าโดยมอเตอร์ Brushless  250W จำนวน 2 ตัว 

PW-301Plus  โครงสร้างอลูมิเนียม  จึงมีคุณสมบัติที่มีน้ำหนักเบาเพียง 18.5 กิโลกรัม เพราะเป็นอลูมิเนียมจึง ไม่มีการเกิดสนิม ให้โครงรถเข็นเกิดการผุ กร่อน PW-301Plus มีการเชื่อมข้อต่อเข้าเป็นชิ้นเดียวกันและเคลือบสีอลูมิเนียมให้มีพื้นผิวที่ทำความสะอาดง่าย


ก่อนจะเลือกซื้อนอกจากจะต้องดูในเรื่องของราคา และชนิดของมอเตอร์แล้ว แนะนำให้ดูในเรื่องของน้ำหนักคนใช้งาน และกำลังของมอเตอร์ควบคู่ไปด้วย มอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลังเยอะ ก็ทำให้รถเข็นไฟฟ้าขับเคลื่อนที่ได้ดีและนิ่มนวลกว่ามอเตอร์ที่มีกำลังมอเตอร์น้อย (รถเข็นไฟฟ้ารุ่นที่มีน้ำหนักเบาอย่างรุ่น Lite1 น้ำหนักรถเข็น 13.5 กก. ก็จะมีกำลังมอเตอร์น้อย ขนาดเพียง 190 วัตต์ จำนวน 2ข้าง แต่ข้อดีคือมีน้ำหนักเบา พกพาง่าย) แต่มองในภาพรวมแล้ว อายุการใช้งานของมอเตอร์ทั้ง 2 ชนิด จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานพอๆ กัน แต่จะแตกต่างกันในเรื่องของความสมูทในการขับเคลื่อนเท่านั้น และการเลือกใช้งานก็ขึ้นอยู่กับสถานที่ และรูปแบบการใช้งาน ว่าเน้นใช้งานนอกบ้านเพื่อพกพา หรือใช้งานอยู่กับที่ ไม่จำเป็นต้องพับเก็บเพื่อพกพา