fbpx

เกร็ดความรู้”โรคต้อหิน”

hp3vMMisCD

 

แหล่งที่มา โดย…พญ.โสมสราญ วัฒนะโชติ จักษุแพทย์ โรงพยาบาลกรุงเทพ

 

eyeball

 

ต้อหิน

ต้อหิน เป็นโรคที่เกี่ยวกับดวงตาโดยตรงหลายคนอาจจะคิดว่าเป็นได้ในผู้ใหญ่แต่หลายคนก็อาจนึกไม่ถึงว่า โรคต้อหินนั้นอาจเกิดได้ในวัยเด็กหรือวัยหนุ่มสาวได้เช่นกัน โรคต้อหินนี้เองยังเป็นสาเหตุอันดับต้นๆที่ทำให้คนไทยตาบอด เพราะว่าคนส่วนใหญ่จะไม่ทราบว่าได้เป็นโรคต้อหินในระยะแรกๆ พอทราบว่าได้ป่วยเป็นโรคต้อหิน ตาก็ใกล้บอดแล้ว

อาการของโรค แบ่งได้ทังหมด 4 ชนิดค่ะ

1.ต้อหินชนิดมุมเปิด ซึ่งเป็นชนิดที่พบได้บ่อย มักไม่แสดงอาการ ต้องตรวจจึงจะทราบว่าเป็น
2.ต้อหินชนิดมุมปิด หากเป็นแบบเฉียบพลันจะมีอาการตาแดง ปวดตา เป็นแบบเรื้อรัง
3.ต้อหินโดยกำเนิด พบในเด็กแรกเกิดถึงเด็กเล็ก มักมีอาการ น้ำตาไหล ไม่สู้แสง ตาดำโต อาจเป็นฝ้าขาว ต้อหินในเด็กบางชนิด มีตาดำเล็กกว่าปกติ พบร่วมกับโรคอื่นของดวงตา
4.ต้อหินทุติยภูมิ เกิดจากภาวะที่มีการอักเสบในดวงตาจากอุบัติเหตุ การใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์อย่างต่อเนื่อง เบาหวานขึ้นตา

ด้วยอาการทั้งสี่ชนิดเหล่านี้ ผู้ที่เสี่ยงเป็นโรคต้อหินมากที่สุดคือ บุคคลที่มีเครือญาติหรือบุคคลในครอบครัวก็จะมีความเสี่ยงได้มาก 5-8เท่าของบุคคลทั่วไป

 

download (1)

 

นอกจากนี้ยังมีเกร็ดข้อมูลที่น่าสนใจ ซึ่งวันนี้ได้รวบรวมข้อข้องใจเกี่ยวกับโรคนี้มาฝาก ดังนี้

1.ต้อหินเกิดจากความดันลูกตาสูงขึ้นมีอาการเสื่อมของประสาทตาทำให้การมองเห็นเริ่มเสื่อม ต้อหินมักจะเป็นทั้งสองข้างอาจเริ่มที่ตาข้างใดข้างหนึ่งก่อนแล้วอาการค่อยๆเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามความดันลูกตาสูงเป็นก็ปัจจัยสำคัญในการเกิดต้อหินได้ค่ะ

2.โรคต้อหินสามารถพบได้ในทุกช่วงอายุ บางรายอาจจะเป็นต้อหินโดยกำเนิด บางรายอาจจะเกิดจากพันธุกรรมก็ได้ค่ะ

3.คนไทยมีโอกาสเป็นโรคต้อหินสูงกว่าชาวตะวันตก 1ใน6 ของประชากรที่อายุเกิน 50 ปี มีโอกาสเป็นต้อหินมุมเปิด ซึ่งหากได้รับการตรวจวินิจฉัยได้ก็สามารถจะรักษาและป้องกันได้ทันทวงทีค่ะ

4.บุคคลที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคต้อหิน ต้องรักษาดูแลตั้งแต่เนินๆเพราะจะมีความเสี่ยงเป็นโรคต้อหินได้มากว่าบุคคลทั่วไป แต่อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่าโรคต้อหินถ่ายทอดทางพันธุกรรมโดยตรง แต่มีความเสียงมากกว่าคนอื่นเท่านั้นเองค่ะ

5.อีก หนึ่งสาเหตุของการเกิดโรคต้อหินคือการใช้ยาหยอดตาผิดประเภทและที่มีคุณภาพถูกเพราะเนื่องจากไปซื้อมาใช้เองตามร้านขายยาทั่วๆไปโดยไม่มีเภสัชแนะนำค่ะหรือใบสั่งแพทย์เพราะยาหยอดตาเหล่านี้จะมีส่วนผสมของสารสเตรลอยด์ซึ่งเป็นสารอันตรายต่อดวงตาค่ะ

6.ในระยะที่เป็นโรคต้อหินเริ่มต้นจะไม่มีอาการอะไรเลย จนถึงกระทั่งประสาทตาถูกทำลายไปครึ่งหนึ่งจึงจะเริ่มมีอาการ เริ่มปวดตา ตามั่ว ตาแดง ถ้าเริ่มมีอาการเหล่านี้อย่างพึ่งนิ่งนอนใจ รีบไปปรึกษาแพทย์โดยด่วนค่ะ

7.ผู้ที่เป็นต้อกระจกจะไม่สามารถเป็นต้อหินได้ เว้นแต่ว่าผู้ที่มาอาการเป็นต้อกระจกไม่รักษาและทิ้งไว้จนแก้วตา มีลักษณะบวมและขุ่นมั่วถ้าเกิดอาการแบบนี้ก็สามารถจะเป็นต้อหินได้ค่ะ

8.ผู้ที่มีอาการเพ็งหน้าจอคอมพิวเตอร์ ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่แน่ชัดว่าจะก่อให้เกิดต้อหินได้แต่อย่างไรก็ตาม ต้องดูแลและรักษาดวงตาไม่ให้เกิดอาการอักเสบ หรือ เสื่อมก่อนวัยอันควรค่ะ

 

Hair--Beauty-ImageCrop_1_7-13-10127m

 

อย่างไรก็ตาม เราก็ไม่ควรเพิกเฉยกับโรคนี้ ด้วยอุบัติการณ์ที่พบได้ 1-2% ในคนสูงอายุ 40 ปีขึ้นไป โดยไม่มีอาการอะไรนำมาก่อน ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปจึงควรได้รับการตรวจตาอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อที่ว่าหากพบโรคนี้ในระยะแรก การรักษาในระยะแรกจะทำให้คุณมีโอกาสสูญเสียสายตาน้อยที่สุด และยิ่งถ้าคุณมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ อีก เช่น เป็นโรคเบาหวาน มีความดันโลหิตสูง มีโรคหลอดเลือด มีภาวะสายตาสั้น มีประวัติโรคต้อหินในครอบครัว คุณควรต้องเฝ้าระวังโดยการตรวจหาภาวะต้อหินอย่างสม่ำเสมอ